บมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน "BWG" แจ้งผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือนปี 2567 โชว์กำไรต่อเนื่อง รายได้รวมทะลุ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% (YoY) รวมกำไรสุทธิ 131.19 ล้านบาท โดยรับรู้ในส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 68.67 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิ 39.47 ล้านบาท โดยรับรู้ในส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 15.94 ล้านบาท มั่นใจสามารถ Turn around สำเร็จในปี 2567 พร้อมเดินหน้าโครงการของกลุ่มบริษัทตามแผน
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน หรือ "BWG" เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 131.19 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปีก่อน (YoY) ที่ขาดทุน 135 ล้านบาท โดยสามารถรับรู้กำไรในส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 68.67 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบจากปีก่อน (YoY) ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 39.48 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปีก่อน (YoY) ที่ขาดทุน 28.90 ล้านบาท โดยรับรู้กำไรในส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 15.94 ล้านบาท
กลุ่ม BWG มีกำไรต่อเนื่องจากการปรับกลยุทธด้านการตลาดจากการปรับราคาค่ากำจัดและการควบคุมค่าใช้จ่าย เป็นการเติบโตเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณงบการเงินรวม 9 เดือนสำหรับปี 2567กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 38% ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรขึ้นต้นเพียง 20% ชี้ให้เห็นว่า มีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังการพัฒนาบุคลากรและนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่งผลทำให้เกิด Economy of scale และกำลังการผลิตเชื้อเพลิง SRF เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปีนี้ปริมาณยอดขายเชื้อเพลิง SRF เติบโตมากถึง 44% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ทางกลุ่มบริษัท BWG ยังได้ร่วมงานกับกรมโรงงานในการกำจัดและบำบัดสิ่งปฏิกูล และของเสียเคมีตกค้างในพื้นที่แห่งหนึ่งที่มาจากการลักลอบทิ้งของเสีย มูลค่าโครงการ 55.84 ล้านบาท โดยเริ่มสัญญาเมื่อ 1 กันยายน 2566 สิ้นสุด 29 มีนาคม 2567 ระยะเวลาทำงาน 210 วัน ซึ่งได้ส่งมอบงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2567 ทั้งสิ้น 23.25 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากกลุ่ม ETC มีโรงไฟฟ้าทั้งหมด 3 แห่ง ในงบการงวด 9 เดือนสามารถผลิตและขาย หน่วยไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน ในไตรมาส 3/2567 มีรายได้เติบโตอยู่ที่ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน(YoY) ถึงแม้จะมีการ Shutdown ตามแผนของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง แต่ผลิตและจำหน่าย ไฟได้มากกว่าปีก่อน เนื่องจากแผนเพิ่มกำลังการผลิตและเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพสูงจากการพัฒนาของกลุ่ม BWG ทำให้มีกำไรสุทธิ 9 เดือน 84.98 ล้านบาท ในกลุ่มโรงไฟฟ้า ส่วนความคืบหน้าการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม 12 แห่ง และโรงผลิตเชื้อเพลิง SRF 3 แห่งของกลุ่ม BWG นั้น ยังคงดำเนินการ ตามแผนที่วางไว้ โดยคาดว่ากลุ่มโรงไฟฟ้าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ครบทุกโครงการภายในปี 2569
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit