PJW ต่อจิ๊กซอว์ ธุรกิจ New S-curve ปั้นพอร์ตรายได้เพิ่ม 25% ประกาศ ปี 68 ฟอร์มสวย รายได้มั่นคง - GP เติบโตกว่า 20-23%

31 Jan 2025

บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก หรือ PJW เดินเกมรุก ปั้นธุรกิจ New S-curve อาทิ งานบริการซักผ้าอุตสาหกรรม และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ประกาศตอกย้ำรายได้เพิ่ม 25% พร้อมหนุนอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตกว่า 20% เพิ่มเป็น 20-23% จาก 18% ในรอบ 9 เดือนปี 2567 และ 20% ในปี 2566 พร้อมวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่เพิ่มเป็น 1 ใน 3 ของพอร์ต

PJW ต่อจิ๊กซอว์ ธุรกิจ New S-curve ปั้นพอร์ตรายได้เพิ่ม 25% ประกาศ ปี 68 ฟอร์มสวย รายได้มั่นคง - GP เติบโตกว่า 20-23%

นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ มองหาธุรกิจที่เป็น New S-curve ใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มบรรจุภัณฑ์ 2. กลุ่มงานชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ และ 3. กลุ่มธุรกิจ Healthcare

และด้วยธุรกิจ New S-curve ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ประเมินภาพรวม การดำเนินงานในปี 2568 มีทิศทางเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ คาดการอัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 20% จาก 18% เป็น 20-23% เป็นผลมาจากกลุ่มธุรกิจใหม่ (New S-curve) อย่างกลุ่มธุรกิจ Healthcare ประกอบด้วย 2 กลุ่มธุรกิจที่บริษัทฯ ได้มีการลงทุนในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ 1. กลุ่มงานบริการซักผ้าอุตสาหกรรม และ2. กลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์

โดยทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจดังกล่าว เริ่มสร้างรายได้ให้บริษัทฯ ผลักดันผลการดำเนินงานในปี 2568 เติบโตแบบก้าวกระโดด และคาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2569 ส่งผลให้ในอนาคตสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง มีอัตราการเติบโตสูง มีความสม่ำเสมอและมีความมั่นคงของรายได้ ซึ่งจะผลักดันให้ภาพรวมของอัตรากำไรของ บริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นและรายได้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ในปี 2568 นี้ PJW จะมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Healthcare อยู่ที่ระดับ 20-25% และในปี 2569 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม เนื่องจาก บริษัทฯ จะมีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ เช่น Oxygen Humidifier, สายยางสำหรับผู้ป่วยฟอกไตและถุงน้ำยาล้างไตผ่านหน้าท้อง เป็นต้น

กลุ่มงานบริการซักผ้าอุตสาหกรรม ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักมาจากโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช (BNH) และโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้กว่า 20% ในปี 2568

"ในปี 2568 จะมีอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่ม Healthcare อยู่ในระดับที่สูงกว่ากลุ่มธุรกิจเดิม (กลุ่มบรรจุภัณฑ์ และกลุ่มงานชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์) หรืออยู่ที่ระดับ 22-25% (จากอัตรากำไรขั้นต้นรวมของบริษัทฯอยู่ที่ระดับ 18-20%)"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่บริษัทฯ ปรับ Portfolio สู่ธุรกิจใหม่ จาก New S-curve ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ เป็นประมาณ 20% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ เติบโตขึ้นจากเดิมที่ 18-20% เพิ่มเป็น 20-23% และคาดว่าจะปรับเพิ่มสูงในปีถัดๆ ไป ซึ่งเป็นผลจากสัดส่วนรายได้ของกลุ่ม Healthcare ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ จะมีเสถียรภาพความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ในปี 2569 บริษัทฯ ยังเตรียมนำสินค้ากลุ่ม Healthcare เจาะตลาดใน ASEAN มากขึ้นด้วย

ส่วนกลุ่มบรรจุภัณฑ์ ยังเป็นธุรกิจ Cash cow (ยังทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ) มีการเติบโตต่อเนื่อง มาตลอด ส่วนกลุ่มงานชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2568 ยังไม่แตกต่างจากปี 2567 มากนัก แต่ก็ถือว่า bottom แล้ว แต่ยอดขายจากกลุ่มยานยนต์ของ PJW จะกลับมาดีขึ้นอย่างมากในปี 2569 จะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจาก backlog ที่มีอยู่ของ new model ต่างๆ ที่จะเปิดตัวในปี 2569 โดยปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำแม่พิมพ์เพิ่มเติมสำหรับการขายในปี 2569