นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการประกาศกำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพและเหตุรำคาญของประชาชนจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สนอ. ได้จัดทำแนวทางประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ เพื่อควบคุมและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นแนวทางให้กับสำนักงานเขตพิจารณาใช้มาตรการทางกฎหมายในการควบคุมและป้องกันปัญหาจากฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่เขต และเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ พ.ศ. 2561 โดยปรับใช้ตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่และได้แจ้งให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตพิจารณาดำเนินการ โดยสำนักงานเขตต้องพิจารณาออกประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ เมื่อในพื้นที่มีค่าความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 มากกว่า 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ขึ้นไป ต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการออกประกาศดังกล่าว ให้พิจารณาดำเนินการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ พ.ศ. 2561 และแนวทางการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญเพื่อควบคุมและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีแนวทางการพิจารณาให้พื้นที่ใดเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญต้องมี 3 องค์ประกอบ ดังนี้ (1) มีเหตุรำคาญจากฝุ่น PM2.5 เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น โดยสำนักงานเขตต้องพิจารณาและคำนึงถึงกิจการ หรือการกระทำใด ๆ ที่ก่อให้เกิดเหตุรำคาญอย่างชัดแจ้ง ประชาชนได้รับรู้และเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเหตุรำคาญ มีกฎหมายกำหนดห้ามกระทำการและกำหนดเป็นความผิดอย่างชัดแจ้ง และมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง (2) มีแหล่งกำเนิดเหตุรำคาญที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 มากกว่า 1 แหล่งขึ้นไป (3) มีผลกระทบต่อสุขภาพหรือสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมของประชาชนจำนวนมากและครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง โดยต้องปรากฏลักษณะบ่งชี้อย่างใดอย่างหนึ่งคือ มีผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของประชาชนที่คาดว่าเป็นผลมาจากเหตุรำคาญที่เกิดจากฝุ่น PM2.5 หรือมีผลการตรวจวัดค่าจากฝุ่น PM2.5 ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โดยพิจารณาจากค่าความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 มีค่ามากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ขึ้นไป สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ยังไม่ลดลงและมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน หรือมีผลการประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพที่บ่งชี้ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน หรือปรากฏโรค หรือความเจ็บป่วยของประชาชนที่คาดว่าเป็นผลมาจากเหตุรำคาญจากฝุ่น PM2.5 เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคผิวหนัง และโรคตา โดยใช้วิธีทางการระบาดวิทยา หรือวิธีการประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพตามความเหมาะสม
สำหรับขั้นตอนการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ เจ้าพนักงานท้องถิ่น (ผู้อำนวยการเขต) ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแหล่งกำเนิดเหตุรำคาญ สภาพพื้นที่ที่เกิดเหตุ ขอบเขตบริเวณพื้นที่เกิดเหตุรำคาญและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน หรือชุมชน วิเคราะห์ สรุปผล และประเมินสถานการณ์ปัญหาเหตุรำคาญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่เห็นควบควบคุม พิจารณาข้อมูลเบื้องต้นว่าสมควรประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญหรือไม่ โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องพิจารณาองค์ประกอบและลักษณะบ่งชี้ครบ 3 องค์ประกอบตามที่ระบุ กรณีที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นพิจารณาเห็นว่าเป็นเหตุรำคาญ ให้ประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ ส่วนกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่สมควรประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ ให้ดำเนินการระงับเหตุรำคาญตามมาตรา ๒๗ หรือ ๒๘ แล้วแต่กรณี นอกจากนี้ ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการป้องกันระงับเหตุรำคาญในพื้นที่ที่ประกาศควบคุมเหตุรำคาญ โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยขอบเขตพื้นที่ที่เห็นควรควบคุม ประเภทสถานประกอบกิจการ หรือการกระทำใด ๆ ที่ต้องควบคุมและมาตรการป้องกัน หรือระงับเหตุรำคาญ ทั้งนี้ อาจให้สถานประกอบกิจการ หรือผู้ก่อเหตุรำคาญรายงานผลการดำเนินงานตามประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญได้ ปิดประกาศไว้ในที่เปิดเผย ณ สถานที่ทำการของราชการส่วนท้องถิ่นและบริเวณที่จะกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญและแจ้งให้สถานประกอบกิจการ หรือผู้ก่อเหตุรำคาญ หรืออาจก่อให้เกิดเหตุรำคาญในพื้นที่ประกาศควบคุมเหตุรำคาญรับทราบและถือปฏิบัติ โดยให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นติดตามกำกับการดำเนินการของสถานประกอบกิจการ หรือผู้ก่อเหตุรำคาญให้เป็นไปตามประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ และกรณีที่เหตุรำคาญในพื้นที่ตามประกาศได้ระงับจนไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของสาธารณชนแล้ว ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศยกเลิกพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญนั้น โดยไม่ชักช้า
นอกจากนี้ ปลัดกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้หน่วยงานสังกัด กทม. ดำเนินการตามมาตรการและแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2568 โดยให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการและแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2568 ข้อ 4. ให้ควบคุมสถานประกอบกิจการ โรงงาน แพลนท์ปูน และสถานที่ก่อสร้าง ในพื้นที่ไม่ให้ปล่อยมลพิษอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด โดย สนอ. ได้ประสานทุกสำนักงานเขตจัดทีมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องออกตรวจสอบ ควบคุม กำกับดูแลแหล่งกำเนิดฝุ่น สถานประกอบกิจการ โรงงาน แพลนท์ปูน และสถานที่ก่อสร้างในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขลักษณะ การจัดการมลพิษอากาศ ตามที่กฎหมายกำหนด จนกว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยสำนักงานเขตได้จัดทีมงานที่เกี่ยวข้องตรวจสถานประกอบกิจการ โรงงาน แพลนท์ปูน สถานที่ก่อสร้างในพื้นที่ไม่ให้ปล่อยมลพิษอากาศเกินค่ามาตรฐาน รวมทั้งขอความร่วมมือศาลเจ้า มูลนิธิ และวัด งดจุดธูปและเผากระดาษ และเข้มงวด ตรวจตรา ควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะ หรือการเผาในที่โล่งทุกประเภท เตรียมประสานศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ คำแนะนำในการปฏิบัติตน พร้อมแจกหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM2.5 แก่ประชาชนทั่วไป เด็กนักเรียน ตลอดจนเฝ้าระวังติดตามประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ รวมถึงจัดทีมออกหน่วยในพื้นที่ที่รับผิดชอบ หรือพื้นที่ศูนย์สุขภาพชุมชน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit