เวียตเจ็ททำสถิติรายได้สูงสุดในปี 2567 พร้อมเดินหน้าขยายฝูงบินและเส้นทางบินทั่วโลก

06 Feb 2025

เวียตเจ็ท (เวียดนาม) ประสบความสำเร็จในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ ควบคู่ไปกับการเสริมทัพฝูงบินที่มีความทันสมัย ส่งผลให้สร้างรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถือเป็นก้าวสำคัญของสายการบินฯ ในการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤตโควิด-19

เวียตเจ็ททำสถิติรายได้สูงสุดในปี 2567 พร้อมเดินหน้าขยายฝูงบินและเส้นทางบินทั่วโลก

ในไตรมาส 4 ปี 2567 สายการบินฯ สร้างรายได้จากการดำเนินงานด้านการบินที่ 19.776 ล้านล้านดอง (ประมาณ 784 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีกำไรสุทธิ 167 พันล้านดอง (ประมาณ 6.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 36 และ 247 ตามลำดับ ตลอดทั้งปี 2567 เวียตเจ็ทมีรายได้รวม 71.545 ล้านล้านดอง (ประมาณ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และกำไรสุทธิ 1.301 ล้านล้านดอง (ประมาณ 51.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 33 และ 697 ตามลำดับ

รายงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เวียตเจ็ทมีสินทรัพย์รวมเกือบ 99.5 ล้านล้านดอง (ประมาณ 3.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) พร้อมอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 2.12 และอัตราส่วนสภาพคล่องที่ 1.71 ซึ่งอยู่ในระดับแข็งแกร่งสำหรับอุตสาหกรรมการบิน

ตลอดทั้งปี สายการบินฯ มีรายได้รวม 71.859 ล้านล้านดอง (ประมาณ 2.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 1.426 ล้านล้านดอง (ประมาณ 56.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 และร้อยละ 516 ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

รายงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เวียตเจ็ทมีสินทรัพย์รวมเกือบ 99.5 ล้านล้านดอง (ประมาณ 3.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 2.12 และอัตราส่วนสภาพคล่องที่ 1.71 ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมการบิน

ในปี 2567 สายการบินฯ ให้บริการผู้โดยสารกว่า 25.9 ล้านคน ด้วยเที่ยวบินกว่า 137,000 เที่ยว ครอบคลุม 145 เส้นทาง แบ่งเป็น 44 เส้นทางบินภายในประเทศ และ 101 เส้นทางบินระหว่างประเทศ ส่งผลให้เวียตเจ็ทเป็นสายการบินฯ ที่มีจำนวนผู้โดยสารสูงสุดในเวียดนาม พร้อมรับมอบเครื่องบินใหม่ 10 ลำ ทำให้ฝูงบินมีอัตราบรรทุกเฉลี่ยร้อยละ 87 และความน่าเชื่อถือทางเทคนิคสูงถึงร้อยละ 99.72

เวียตเจ็ทเดินหน้าขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรักษาความแข็งแกร่งของเครือข่ายภายในประเทศ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 สะท้อนถึงกลยุทธ์ดังกล่าว โดยสายการบินฯ ได้เปิดเที่ยวบินตรงใหม่จาก ดานัง สู่ อาห์มดาบาด (อินเดีย) และ ฮานอย สู่ กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) พร้อมทั้งเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางยอดนิยม สู่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจุดหมายปลายทางยอดนิยมอื่น ๆ

นอกจากนี้ เวียตเจ็ทได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับเอมิเรตส์ เพื่อยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างเวียดนามกับดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) รวมถึงจุดหมายปลายทางทั่วโลก พร้อมทั้งประกาศเปิดเส้นทางบินตรงใหม่ สู่ ไฮเดอราบาดและบังกาลอร์ (อินเดีย) รวมถึงปักกิ่งและกวางโจว (จีน) เพื่อตอบสนองความต้องการการเดินทางที่เพิ่มขึ้น และกระชับความสัมพันธ์กับตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่างอินเดียและจีน

อีกหนึ่งก้าวสำคัญของเวียตเจ็ทคือการเปิดเที่ยวบินจากเวียดนามสู่สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก พร้อมบรรลุข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เสริมจากข้อตกลงเดิมกับโบอิ้ง (Boeing) จีอี (GE) ซีเอฟเอ็ม (CFM) แพรตต์แอนด์วิตนีย์ (Pratt & Whitney) และฮันนี่เวลล์ (Honeywell) รวมมูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังเดินหน้าพัฒนาบริการดิจิทัลและนวัตกรรมร่วมกับ SpaceX และผู้ให้บริการเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบิน เพื่อยกระดับคุณภาพบริการและประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารทุกคน

ปี 2568 สายการบินฯ ตั้งเป้าขยายเครือข่ายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและเทคโนโลยี สนับสนุนการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระดับโลก