เพราะการศึกษา เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้คนมีคุณค่า มีความพร้อม มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้…มูลนิธิศุภชัย-บุษดี เจียรวนนท์ จึงได้มอบโอกาสให้เยาวชนไทยได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ในโอกาสนี้ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และนางบุษดี เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการมูลนิธิฯ และครอบครัว มอบทุนการศึกษาประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ซึ่งเป็นทุนสนับสนุนให้แก่นักเรียน นักศึกษา ในความดูแลของมูลนิธิตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงปริญญาตรี โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. ทุนการศึกษาสำหรับผู้เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ 2. ทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนผู้มีศักยภาพโดดเด่นและทักษะเฉพาะทาง 3. ทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนผู้มีศักยภาพโดดเด่นทางสายอาชีพ อันสะท้อนความมุ่งมั่นของมูลนิธิฯ ที่ต้องการช่วยเหลือและมอบโอกาสคืนสู่สังคมรวมถึงการพัฒนาศักยภาพและทักษะที่ตอบโจทย์โลกแห่งอนาคตแก่เยาวชนไทย ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยมีคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้ปกครอง และคณาจารย์ร่วมแสดงความยินดี ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ มูลนิธิศุภชัย-บุษดี เจียรวนนท์ กล่าวให้โอวาทและสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาว่า "มูลนิธิฯ มุ่งมั่นส่งเสริมด้านการศึกษาแก่เยาวชนไทย มอบทุนการศึกษาที่สะท้อนถึงคุณค่าของ "ความกตัญญู" ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของคนดี ซึ่งคำว่า "กตัญญู" ไม่ได้จำกัดเพียงการแสดงความขอบคุณต่อบุพการีและผู้มีพระคุณ แต่ยังหมายถึงการมีความเมตตาและใส่ใจต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข นำไปสู่ความรักแท้และความเมตตา ช่วยปลูกฝังจิตใจที่พร้อมตอบแทนคุณและสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมด้วยการคิดเชิงบวกและความเพียรพยายาม เยาวชนจะสามารถเผชิญและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ด้วยการปฏิบัติตาม "มรรค 8" ซึ่งประกอบด้วยการเห็นชอบ คิดชอบ วาจาชอบ การกระทำชอบ การดำเนินชีวิตชอบ ความเพียรชอบ สติชอบ และสมาธิชอบ โดยเน้นการครองสติหลีกเลี่ยงความโลภ โกรธ หลง และความกลัว สำหรับมูลนิธิฯ การศึกษาที่ดีไม่ใช่แค่การสร้างคนเก่ง แต่คือการสร้างคนดีที่สามารถนำความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมไปใช้ในการพัฒนาตนเองและตอบแทนสังคมอย่างสร้างสรรค์ การล้มเหลวคือบทเรียนสำคัญ เราส่งเสริมให้เยาวชนมีความเพียรในการเรียนรู้และเติบโตจากทุกประสบการณ์ ทั้งนี้ มูลนิธิฯ เชื่อมั่นว่าเยาวชนที่ได้รับทุนจะนำคุณธรรมและความกตัญญูมาประยุกต์ใช้ในชีวิต สร้างประโยชน์ให้กับตนเองและสังคม พร้อมเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนรุ่นต่อไป"
นางบุษดี เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการมูลนิธิฯ ได้กล่าวเสริมว่า "อาชีพหรือกิจกรรมใดๆ ที่น้องๆ ต้องการจะทำหรือกำลังทำอยู่นั้น ขอให้พึงคำนึงอยู่เสมอว่า จะต้องเป็นการกระทำที่ส่งต่อความดี ความช่วยเหลือ และความกตัญญู ที่ทุกคนสามมารถทำได้ในรูปแบบแตกต่างกันออกไป เริ่มตั้มแต่คำนึงถึงคนภายในครอบครัว ขยายผลส่งต่อไปถึงสังคม ประเทศ และมนุษยชาติ"
นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์ กล่าวให้คำแนะนำเกี่ยวกับการนำสิ่งที่เราชื่นชอบมาพัฒนาและอาจสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เริ่มต้นจากการเล่นเกม แล้วนำความชอบนั้น มาสร้างสรรค์เกมของตัวเองสู่ตลาดโลก ความมุ่งมั่นในสิ่งที่ถนัด เรียนรู้ให้ลึกซึ้ง และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ
นางกมลนันท์ เจียรวนนท์ โสภณพนิช กล่าวให้คำแนะนำเกี่ยวกับการค้นหาตัวเองและอาชีพในอนาคต โดยอยากให้น้องๆ คิดถึงคุณค่าหลัก (Core Value) และเป้าหมายของชีวิตที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำอะไร หากสิ่งนั้นสามารถตอบโจทย์เป้าหมายของเราได้ เช่น การทำเพื่อครอบครัว เพื่อประเทศชาติ เราจะมีแรงและกำลังใจในการทำงานด้วยใจรัก (Passion) ต่อไปได้อย่างยั่งยืน
นายแซนเดอร์ เจียรวนนท์ กล่าวให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ โดยเริ่มจากความสนใจ และความรักในสิ่งที่เรียน การค้นคว้าวิจัยและลงมือทำของเราในวันนี้อาจจะสามารถสร้างประโยชน์ให้สังคม และสามารถเปลี่ยนโลกให้ดียิ่งขึ้นได้ในอนาคต
เด็กหญิงภคนิจ อุปจักร์ ได้รับทุนการศึกษาทางด้านผู้มีศักยภาพโดดเด่นและทักษะเฉพาะทาง ตั้งแต่ปี 2564 ปัจจุบันศึกษาชั้น ป. 5 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา จ.พะเยา กล่าวว่า "พอได้รับทุนแล้วแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ได้มาก ได้รับโอกาสใหม่ๆ เยอะขึ้นกว่าเดิม หนูจะใช้ทุนนี้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด และเรียนชั้นสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วก็กลับมาพัฒนาประเทศต่อไปค่ะ"
นายฐิติวุฒิ นิลคง ได้รับทุนการศึกษาทางด้านผู้มีศักยภาพโดดเด่นสายอาชีพ ตั้งแต่ปี 2566 ปัจจุบันศึกษาระดับชั้น ปวช. ปี 2 วิทยาลัยการอาชีพเวียงสา จ.น่าน กล่าวว่า "ผมขอขอบคุณที่ช่วยให้ผมมีอนาคต สามารถเรียนต่อได้ ทุนการศึกษาช่วยเปิดประตูสู่โลกกว้างและเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผมครับ"
นางสาวนภัทร แซ่หยาง ได้รับทุนการศึกษาทางด้านผู้มีศักยภาพโดดเด่นหรือมีทักษะเฉพาะทาง ตั้งแต่ปี 2564 ปัจจุบันศึกษาชั้นปีที่ 3 สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ จ.นนทบุรี กล่าวว่า "ทุนการศึกษานี้มีความสำคัญมาก ถ้าไม่มีทุนการศึกษานี้คงไม่มีโอกาสเรียนต่อมหาวิทยาลัย ขอบคุณในความเมตตาและเป็นแรงบันดาลใจให้ได้เรียนสูงๆ ทำให้ได้เรียนในสิ่งที่ต้องการ มองเห็นอนาคตและเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ"
ทั้งนี้ มูลนิธิศุภชัย-บุษดี เจียรวนนท์ ยังเดินหน้าสานต่อเจตนารมย์สนับสนุนการศึกษาของเยาวชนไทย โดยในปี 2568 วางแผนงานครอบคลุม 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit