เอกา โกลบอล เดินหน้าสร้าง 'อินโนเวชั่น' ผลิตภัณฑ์ใหม่ เตรียม 'ทรานส์ฟอร์ม' องค์กรสู่ยุค AI

04 Feb 2025

"เอกา โกลบอล" ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์แห่งอนาคตช่วยยืดอายุอาหาร เปิดมุมมองตลาดอาหารทั่วโลกปีนี้ยังคงเติบโต เป็นแรงหนุนตลาดแพ็กเกจจิง ชี้ทิศทางธุรกิจยุคใหม่ต้องปรับตัวด้านวัตกรรมมากขึ้น พร้อมเตรียมยกระดับองค์กรทรานส์ฟอร์มสู่ยุค 'AI' เล็งนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อก้าวทันและนำเทรนด์ตลาดโลก รวมทั้งลดต้นทุนในอนาคต ส่องอนาคตตลาดอินเดียจะเติบโตสูงกว่า 30 - 40% ดันยอดขายทั้งปี 2568 เติบโต 1,400 ล้านบาท

เอกา โกลบอล เดินหน้าสร้าง 'อินโนเวชั่น' ผลิตภัณฑ์ใหม่ เตรียม 'ทรานส์ฟอร์ม' องค์กรสู่ยุค AI

นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) แบรนด์คนไทยเบอร์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์และทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ถึงแม้ยังมีความไม่ชัดเจน ยังคงมองตลาดอาหารทั่วโลกในปีนี้จะเติบโตได้ดีจากความต้องการการบริโภคทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งส่งอานิสงส์ต่อเนื่องถึงตลาดแพ็กเกจจิงอาหารที่จะขยายตัวได้ดีตามไปด้วยเช่นกัน

อย่างไรดี ท่ามกลางความท้าทายของเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องปรับตัวด้านนวัตกรรมมากขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ตลาดโลกที่ขับเคลื่อนไปสู่ยุค 'AI' ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ขับเคลื่อนการเติบโตธุรกิจยุคใหม่

เช่นเดียวกัน 'เอกา โกลบอล' เตรียมปรับกลยุทธ์ธุรกิจในปีนี้ เป็นปีแห่งการปรับตัวด้านนวัตกรรมที่เข้มขึ้นยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับองค์กรเตรียม 'ทรานส์ฟอร์ม' ธุรกิจเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการผลิต เป็นต้น ทั้งนี้ เป็นไปตามเทรนด์ตลาดโลก และมุ่งเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการดำเนินธุกิจในอนาคต

โดยแพ็กเกจจิงบรรจุอาหารนวัตกรรมใหม่ที่เตรียมเปิดตัวภายในปีนี้ ได้แก่ ถาดบรรจุอาหารพร้อมทาน โดยแบ่งฝั่งที่บรรจุข้าวแยกออกจากแกง หรือ อาหารคาว เสริฟให้สำหรับสายการบิน และสำหรับกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง มีบรรจุภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อให้ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยง สามารถให้อาหารได้ง่ายขึ้น และสามารถใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง โดยเป็นลักษณะมีด้ามจับสามารถยืนให้สัตว์เลี้ยงได้อย่างง่ายดาย

"ในปี 2568 ยังมองเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียมที่มองว่าจะขยายตัวได้อย่างโดดเด่น และประเทศไทยยังมีข้อได้เปรียบนานาประเทศในด้านการเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบอาหาร และการส่งออกอาหาร แต่ตลาดแพ็กเกจจิง ต้องมีการปรับตัวด้านนวัตกรรมมากขึ้น นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ โดยเฉพาะ Generative AI ซึ่งกำลังมีบทบาทมากขึ้น และกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้บริโภค"

สำหรับเป้าหมายยอดขายในปีนี้ บริษัทฯ คาดเติบโตกว่า 1,400 ล้านบาท โดยเป็นการรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย และคาดตลาดอินเดียจะเติบโตสูงถึง 30 - 40% รวมถึงฐานการผลิตของโรงงานที่ประเทศไทยที่ยังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง

"มองอนาคตตลาดอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก เพราะมีจำนวนประชากรสูงและคนอินเดียนิยมทานขนมหวาน ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้าบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารโตขึ้นเท่าตัวทุกปี โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีผู้ผลิตอาหารและขนมหวานในอินเดียมากกว่า 300 - 400 ราย"

นายชัยวัฒน์ กล่าวปิดท้ายว่า ปัจจุบัน 'เอกา โกลบอล' มีโรงงานผลิตทั้งหมด 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานที่ประเทศไทย 1 แห่ง และมีโรงงานที่ประเทศอินเดีย 1 แห่ง รวมกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารทั้งหมด 2,850 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งขณะนี้ทั้งสองโรงงานมีอัตราการผลิตราว ๆ 70 - 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด โดยคาดว่าในปีนี้โรงงานที่อินเดียจะเดินหน้าผลิตเต็ม 100% เพื่อรองรับความต้องการของตลาดอินเดียที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง