ฟอร์วิส มาซาร์ส ชูศักยภาพที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก เดินหน้าพัฒนาบุคลากรรองรับการเติบโต ขึ้นแท่น TOP5 ในเมืองไทย

นายร็อบ ฮูเรนคัมป์ หุ้นส่วนผู้จัดการ บริษัท ฟอร์วิส มาซาร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากการควบรวมกิจการของฟอร์วิสและมาซาร์สในเดือนมิถุนายน ปี 2567 บริษัทฯ ได้ก้าวขึ้นสู่ 1 ใน 10 ผู้นำบริการที่ปรึกษาด้านบัญชี กฎหมาย ภาษี และการเงินในระดับโลก ปัจจุบันมีการดำเนินงานในกว่า 100 ประเทศ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 40,000 คน ส่วนฟอร์วิส มาซาร์ส ในประเทศไทย มีพนักงานมากกว่า 400 คน

ภาพรวมตลาดที่ปรึกษาด้านบัญชี กฎหมาย ภาษี และการเงินในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 20,000 -25,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตปีละ 5 - 6% โดยปัจจุบัน ฟอร์วิส มาซาร์ส มีส่วนแบ่งตลาด 2.5% หรือ อันดับ 6 ของตลาด คิดเป็นรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท โดยสัดส่วนหลักมาจากกลุ่มบริษัทต่างชาติ 90-95%

ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทฯ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นตัวเลขสองหลัก และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มอีก 1% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก จึงนับเป็นความท้าทายของบริษัทฯ ในการปรับตัวรองรับสภาพความเปลี่ยนแปลงของตลาด โดยจะใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัทที่ปรึกษาด้านบัญชี กฎหมาย ภาษีและการเงินระดับสากล เพื่อก้าวสู่เป้าหมายอันดับ 5 ของตลาดในเมืองไทย ภายใน 4 ปีข้างหน้า

"ฟอร์วิส มาซาร์ส มีเป้าหมายในการก้าวขึ้นสู่บริษัทที่ให้บริการด้านบัญชีที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ในประเทศไทย โดยได้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการให้คำปรึกษาในบริการด้านภาษี และบริการให้คำปรึกษาทางการเงิน โดยทั้งสองสายงานมุ่งเน้นไปที่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนในสายงานบริการตรวจสอบบัญชีของเราเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดกรอบคุณภาพระดับโลกที่พัฒนาไป ซึ่งเราเชื่อว่าจะทำให้เรามีความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือกว่าบริษัทตรวจสอบบัญชีอื่น ๆ"

นายร็อบ กล่าวว่า กลยุทธ์ที่สำคัญของ ฟอร์วิส มาซาร์ส คือการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรระดับมืออาชีพ ซึ่งเป็นปัญหาที่ท้าทายในอุตสาหกรรมนี้ โดยในแต่ละปีบริษัทฯ มีการจ้างบัณฑิตจบใหม่ 60-80 คน แต่พบว่าประมาณ 40-50% ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพภายในหนึ่งปี เพื่อแก้ไขปัญหานี้บริษัทฯ จึงได้มุ่งเน้นการยกระดับความสามารถในสรรหา ฝึกอบรม รักษา และพัฒนาพนักงานมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ

หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของ ฟอร์วิส มาซาร์ส คือการได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนายจ้างที่ดีที่สุดในประเทศไทยและได้รับรางวัล HR Asia Award เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน รางวัลนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมและมอบโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาศักยภาพในระดับมืออาชีพ

"ผมภูมิใจที่จะประกาศการเลื่อนตำแหน่งพนักงานที่โดดเด่นสองคนให้เป็นหุ้นส่วนของกลุ่มบริษัทเรา การเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของพวกเขาจนถึงปัจจุบัน และเราตั้งตารอความสำเร็จในอนาคตของพวกเขา ปัจจุบันบริษัทในประเทศไทยเติบโตขึ้นจนมีหุ้นส่วนของกลุ่มบริษัท 15 คนแล้ว"

สำหรับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไทยมีแนวโน้มในการฟื้นตัวที่ไม่ดีนัก รวมทั้งการลงทุนจากต่างประเทศที่ลดลง สิ่งที่น่ากังวลคือกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และมีแรงงานอยู่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก แต่ SMEs ของไทย ยังขาดโอกาสในการขยายการเติบโต รวมทั้งขาดความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ดังนั้นเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลไทยควรพิจารณาพัฒนานโยบายเพื่อสนับสนุน SMEs รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจเหล่านี้ ขณะที่บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น และตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มลูกค้า SMEs เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

• ข่าวกฎหมาย
• ข่าวเมืองไทย
• ข่าวภาษี
• ข่าวบัญชี
• ข่าวมาซาร์ส