ย้อนกลับไปยุคที่วงการหนังสือพิมพ์ของประเทศไทยเฟื่องฟู เชื่อว่าคงไม่มีคนไทยคนไหนที่ไม่รู้จัก "เดลินิวส์" หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ เจ้าของตำนานหัวสีบานเย็น กับสโลแกน "อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์" ที่ครองใจคนทั้งประเทศมาเป็นเวลากว่า 60 ปี ผ่านการสืบทอดธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นพร้อมกับปณิธานอันเข้มแข็งของ 'นายแสง เหตระกูล' ผู้ก่อตั้งที่มุ่งมั่นสร้างสื่อน้ำดีมีจรรยาบรรณ จนถึงปัจจุบันในปี 2568 กับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 61 โดยทายาทรุ่น 3 "นลิน รุจิรวงศ์" ที่เข้ามาสืบทอดทั้งธุรกิจ และปณิธานจากผู้ก่อตั้ง กับความท้าทายที่ต้องเผชิญในวันที่รูปแบบของสื่อเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการแข่งขันที่มีสื่อใหม่ลงสนามช่วงชิงผู้บริโภคข่าวสารมากขึ้น แล้ว "เดลินิวส์" ในวันนี้จะไปต่อโดยยังยืนหยัดมุ่งมั่นในปณิธานที่จะเป็นสื่อมวลชนเพื่อประชาชนคนไทย ลุยงานข่าวทุกมิติ เพื่อนำพาประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจและความขัดแย้ง พร้อมเป็นพื้นที่นำเสนอข่าวสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสิ่งดีๆ ให้กับประเทศและโลกอนาคต โดยไม่ละทิ้งจริยธรรมและจรรยาบรรณของสื่อได้อย่างไร
Goal & Mission ของ "นลิน รุจิรวงศ์" ที่บริหารแบบพิถีพิถัน
ในยุคเปลี่ยนผ่านที่สื่อจำเป็นต้อง go online อย่างเลี่ยงไม่ได้ และต้องเผชิญกับความท้าทายระลอกใหญ่ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ที่ต้องเร่งปรับตัวจากหลายปัจจัยทั้งพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ผ่านจอคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟนที่มากขึ้น รวมถึงการเกิดสำนักข่าวใหม่ ๆ บนช่องทางโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้เดลินิวส์ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้นำและผู้เล่นที่ยังยืนหยัดได้ โดยเฉพาะในบทบาทสื่อหลักที่เชื่อถือได้ของคนไทยทั้งประเทศ โดยภายใต้การบริหารของ "นลิน รุจิรวงศ์" ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและการตลาด (EVP) ที่มาสานต่อตำนาน "เดลินิวส์" เล่าว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้เดลินิวส์ต้องมีการปรับกลยุทธ์ขององค์กรไปให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน (sustainability) และโฟกัสการสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนในแต่ละปี
ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ที่ต้องการให้ปรับเดลินิวส์เป็นสื่อที่นำเสนอสิ่งที่มากกว่าข่าว พร้อมส่งต่อเรื่องที่ดีมีโซลูชั่นให้คนไทยได้ขบคิด ผ่านการนำเสนอคอนเทนต์ออนไลน์ ที่สามารถเข้าถึงผู้เสพสื่อได้ทุกกลุ่มวัย เข้ากับยุคสมัย ฉับไว รวดเร็ว เพื่อเตรียมรับมือกับโลกแห่งอนาคต รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นในการบริหารและการสร้างความเป็นมืออาชีพในทุกระดับโครงสร้างการทำงานและแนวคิดภายในองค์กร การดำเนินงานร่วมกับพันธมิตร เพื่อสร้างกิจกรรมและขยายโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมุ่งเน้นที่จะสร้างรายได้เพื่อความอยู่รอด แต่ในขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับจริยธรรมและจรรยาบรรณของสื่อ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เสพข่าวจากแหล่งข้อมูลที่มีมาตรฐาน
"การเปลี่ยนแปลงในยุคดิสรัปชันเพิ่มแรงกดดันในการปรับตัว เพราะต้องก้าวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดและธุรกิจ อีกมิติคือการทำงานในฐานะทายาทธุรกิจต้องเผชิญกับความคาดหวังจากทั้งครอบครัวและองค์กร ทำให้ผู้บริหารต้องเข้ามามีบทบาทในหลายด้าน ทั้งการวางกลยุทธ์ การบริหารทีมงาน ร่วมสร้างสรรค์ไอเดียที่ช่วยเติมเต็มเป้าหมายขององค์กร ต้องจริงจังกับรายละเอียดงานในเชิงลึก เพื่อให้สามารถสื่อสารและแก้ปัญหาได้ตรงจุด การเริ่มต้นและลงมือทำไปด้วยกันด้วยแนวคิดการ "coach" ทีม จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทุกการตัดสินใจต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล"
2025 ปีแห่งการเสิร์ฟคอนเทนต์หลากหลาย อัดแน่นด้วยคุณภาพ เพื่อคนทุกเจเนอเรชั่น
สำหรับทศวรรษใหม่ของเดลินิวส์ "นลิน" มีเป้าหมายที่จะปั้นให้ "เดลินิวส์" หลุดจากกรอบที่จำกัดไว้แค่เป็นสื่อหนังสือพิมพ์ และดูเหมาะกับคนสูงวัย ไปสู่ภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย โดยการสร้างและพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียให้มีตอบโจทย์ความสนใจของผู้บริโภคทุกกลุ่มวัย แน่นอนว่าการปรับตัวสู่โลกออนไลน์ขององค์กรขนาดใหญ่ นอกจากจะต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานขององค์กรและงบประมาณแล้ว โจทย์ในเรื่องของการสร้างคอนเทนต์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ในยุคที่พฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอน สามารถปรับได้ตลอดเวลาตามกระแสในช่วงเวลานั้น ก็นับว่ามีความท้าทายไม่แพ้กัน
นลิน ให้ความเห็นว่า ผู้บริโภครุ่นใหม่มักไม่เชื่อถือ "สื่อ" แบบดั้งเดิม แต่เชื่อผู้เล่าหรือผู้สร้างคอนเทนต์ที่ทำให้รู้สึกเหมือนฟังเพื่อนพูดคุย เน้นความรวดเร็ว เข้าใจง่าย และสามารถติดตามได้ในเวลาจำกัด เช่น การฟังข้อมูลผ่านคลิปเสียงหรือวิดีโอระหว่างทำกิจกรรมอื่น ทำให้บางครั้งคอนเทนต์ที่ตั้งใจและมีคุณภาพอาจไม่ได้ผลตอบรับที่ดีเสมอไป ในขณะที่บางคอนเทนต์ที่ดูเรียบง่ายกลับได้รับความนิยม วิธีการเล่าเรื่องต้องปรับตัวให้เข้ากับแพลตฟอร์ม รูปแบบการเสพสื่อที่หลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเนื้อหาที่สนุกและผ่อนคลาย
การทำงานของเดลินิวส์จึงเน้นพัฒนาโซเชียลมีเดีย ด้วยการใช้นักข่าวมือเก๋า ผู้กุมประเด็นสำคัญของข้อมูลข่าวสารในทุกๆด้าน และรุ่นใหม่ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล เข้ามาร่วมสร้างคอนเทนต์ที่ผสมผสานความน่าเชื่อถือขององค์กรกับความสนุกสนานและเข้าถึงง่าย จะช่วยให้สื่อดั้งเดิมยังคงความสำคัญในตลาด เพราะเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดสื่อออนไลน์ได้
"เรามีทีมงานคนข่าวคุณภาพกว่า 300 ชีวิตทั่วประเทศ ที่จะมาร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของเดลินิวส์ที่จะไม่ได้เป็นเพียงแค่คนข่าว แต่จะก้าวสู่การเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ และให้โซลูชันกับคนไทย ผ่านการหยิบจับประเด็น และเหตุการณ์รอบตัวมารายงาน พร้อมวิเคราะห์ต่อยอดเพื่อให้ผู้อ่านเดลินิวส์ได้อะไรที่มากกว่าข่าว หรือเรื่องราวดราม่า โดยไม่ทิ้งปณิธานของเราที่จะต้องนำเสนอเรื่องดี และมีจรรยาบรรณ
นอกจากนี้เรายังเสริมความแข็งแกร่ง โดยการเพิ่มทีมทำงานคนรุ่นใหม่เพื่อเข้ามาเติมมุมมองคอนเทนต์ที่เท่าทันกับกระแสความสนใจของคนในยุคนี้ โดยในปีนี้เราจะตั้งต้นกับ 3 คอนเทนต์สำคัญคือ Wealth Sustainability และ Beauty & Health โดยได้กูรูตัวจริงจากทั้ง 3 วงการมีร่วมเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ให้กับเราด้วย"
Dailynews Awards 2024 หนึ่งในโซลูชันดันพลัง 'ซอฟต์พาว์เวอร์ไทย' ด้วยสื่อ
ที่ผ่านมาในโอกาส "เดลินิวส์" ครบรอบ 60 ปี เมื่อปี 2567 เพื่อเฉลิมฉลองในฐานะสื่อมวลชนที่อยู่กับสังคมไทยมายาวนาน ยึดมั่นการทำงานอย่างตรงไปตรงมาในทุกสถานการณ์ รวมถึงเป็นที่พึ่งของสังคมไทยและยึดประโยชน์สาธารณะเพื่อประชาชนและประเทศไทยตลอดมา เดลินิวส์ ได้จัดบิ๊กอีเวนต์ 'Dailynews Awards 2024' กับธีมการส่งต่อ "เรื่องดี" จากคนบันเทิงสู่สังคม พร้อมปักหมุดผู้นำสื่อที่พร้อมผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้ไปสู่ระดับสากลได้ โดยการใช้สื่อผลักดันการรับรู้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ต่างๆทั้งบันเทิง อาหาร กีฬา ไปจนถึงแฟชั่น ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจของเดลินิวส์ที่อยากจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้อย่างแท้จริง
"รางวัล Dailynews Awards 2024 ไม่เพียงเป็นเวทีเชิดชูเกียรติแก่บุคคลในวงการบันเทิง แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้าง Soft Power ของประเทศไทย ผ่านผลงานคุณภาพที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยสู่สายตาชาวโลก การจัดงานครั้งนี้มุ่งยกย่องผลงานที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบันเทิงไทย
ทั้งภาพยนตร์ ละคร ดนตรี และสื่อสร้างสรรค์อื่น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลิตผลงานที่มีคุณภาพ สะท้อนวัฒนธรรมไทย และสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นเวทีที่ช่วยกระตุ้นให้วงการบันเทิงไทยผลิตผลงานที่ทรงคุณค่า และขยายขอบเขตความสำเร็จสู่ระดับสากล การจัดงานครั้งนี้ไม่ใช่แค่การมอบรางวัล แต่เป็นการสร้างแรงกระเพื่อมในอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ให้กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และความภาคภูมิใจของคนไทย พร้อมก้าวสู่เวทีโลกด้วยความมั่นใจ"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit