นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับรถบริเวณทางม้าลายหน้าโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เขตราชเทวีว่า กรณีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ลักลอบกลับรถตรงทางข้าม (ทางม้าลาย) เป็นการกระทำผิดกฎหมายและข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรเป็นพฤติกรรมเฉพาะรายบุคคล โดย สจส. ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนนร่วมกันหาแนวทางลดปัญหาดังกล่าว โดยรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยในการสัญจรผ่านสื่อประชาสัมพันธ์และรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบริเวณทางม้าลาย โดยเผยแพร่ทางช่องทางต่าง ๆ รวมถึงปรับปรุงกายภาพทางข้ามให้มีความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ท้องที่ เพื่อกวดขันวินัยจราจร อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวอาจยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร เนื่องจากเมื่อไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่บริเวณทางม้าลายจะมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บางรายที่ขาดจิตสำนึกลักลอบกระทำผิดอีก จึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ สจส. ได้นำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหาการขับขี่บนทางเท้า ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย โดยติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมระบบ AI เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิดจอด หรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งได้เริ่มติดตั้งไปแล้ว 15 เขตนำร่อง ได้แก่ เขตพญาไท เขตราชเทวี เขตยานนาวา เขตบางซื่อ เขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตบางเขน เขตลาดกระบัง เขตมีนบุรี เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตบางแค เขตหนองแขม เขตบางขุนเทียน และเขตดินแดง รวมทั้งสิ้น จำนวน 28 จุด เริ่มใช้งานตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 67 และคาดว่า จะแล้วเสร็จครบถ้วนจำนวน 100 จุด ภายในเดือน ส.ค. 67 โดยระบบตรวจจับโดยกล้อง CCTV ด้วยระบบเทคโนโลยี AI จะส่งข้อมูลภาพและป้ายทะเบียนของผู้ฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้าไปยังสำนักงานเขตฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจจะตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูลทะเบียนรถของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และตรวจสอบภูมิลำเนากับฐานข้อมูลของ กทม. เพื่อจัดส่งจดหมายให้ผู้กระทำผิดมาพบเจ้าหน้าที่ยังสำนักงานเขตฯ พิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ประกอบกับ พ.ร.บ. การปรับพินัย พ.ศ. 2565 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป