โรงเรียนจำนวนมากในไทยต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ มากมาย การมีไฟฟ้าใช้ในโรงเรียนนั้นส่งผลเชิงบวกต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ แต่ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นก็ถือเป็นภาระสำคัญประการหนึ่งของโรงเรียนวิกฤตินี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเด็กๆ เช่น คุณภาพและโอกาสการศึกษาที่ลดลง รวมถึงสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดตัวของโรงเรียนได้
ทรินาโซลาร์ ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์โฟโตวอลเทอิก (PV หรือโซลาร์เซลล์) และระบบกักเก็บพลังงาน ทราบถึงปัญหาค่าไฟฟ้าในภาคการศึกษาของไทย เดฟ หวัง หัวหน้าอนุภูมิภาคประจำเอเชียแปซิฟิกของทรินาโซลาร์ ให้ความเห็นว่า "การนำระบบกักเก็บพลังงานมาใช้ในโรงเรียนเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับปัญญาด้านค่าใช้จ่าย ซึ่งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาสามารถผลิตไฟฟ้าที่สะอาดและหมุนเวียน และยังช่วยลดค่าไฟฟ้า ทั้งนี้ ด้วยการใช้โซลูชันที่ยั่งยืนนี้ โรงเรียนจะสามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้ออำนวยสำหรับการเรียนการสอน และช่วยลดค่าไฟฟ้าได้"
ทรินาโซลาร์ ร่วมมือกับ บริษัท อัลเตอร์วิม จำกัด และค่ายยุววิศวกรบพิธ (VESC หรือ Voluntary Engineering Student Camp) ซึ่งเป็นค่ายของชมรมค่ายอาสาพัฒนา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทรินาโซลาร์ได้จัดหาและอำนวยความสะดวกในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ Vertex DE18 550Wp ของทรินาโซลาร์ บนหลังคาของศูนย์พัฒนาเด็กในจังหวัดนครสวรรค์ โครงการนี้คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ย 660 kWh ต่อเดือน และประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 2,700 บาทต่อเดือน หรือ 32,400 บาทต่อปี ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ไม่เพียงแต่มอบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ดีขึ้น แต่ยังสร้างพลังงานสะอาดและช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าอีกด้วย ในระยะยาว โรงเรียนจะสามารถสะสมเงินจากการประหยัดค่าไฟฟ้าเพื่อใช้สำหรับโอกาสทางการศึกษาอื่นๆ ได้ เช่น การสร้างสนามเด็กเล่นและห้องสมุด
"ด้วยพันธกิจของทรินาโซลาร์ 'พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับทุกคน' ซึ่งสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานทั่วโลก การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการพัฒนาที่ยั่งยืน เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาสาสมัครนี้ เราตระหนักอยู่เสมอว่าการดำเนินงานของเราเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต" เดฟ กล่าวสรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit