ซัมซุง มุ่งมั่นส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีแก่เยาวชนไทย ทั้งทางออนไลน์และในโรงเรียน 10 แห่งทั่วประเทศ เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และสร้างโอกาสสำหรับอนาคตที่ดีกว่า โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ Thailand 5.0 ผ่านโครงการ "Samsung Innovation Campus 2024" เพิ่มขีดความสามารถนักเรียนไทยในระดับมัธยมศึกษาอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ โดยในปีนี้มีนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมากถึง 7,286 คน ชูโรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ ต้นแบบความสำเร็จของโครงการผ่านเรื่องราวความประทับใจจากคุณครูและนักเรียนกว่า 113 คน ที่ได้นำความรู้จากโครงการไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
นายมาร์ค คิม ประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “โครงการ Samsung Innovation Campus เป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมทักษะเทคโนโลยีให้กับเยาวชนไทยโดยเน้นการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมยกระดับการศึกษาแก่เยาวชนให้เท่าเทียมทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้สังคมไทย”
ล่าสุดซัมซุง ลงพื้นที่เยี่ยมชมการเรียนการสอนโรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์เยาวชนไทยในการเรียนด้านเทคโนโลยี เพื่อเท่าทันทุกการเปลี่ยนแปลงของทักษะแห่งอนาคต ผ่านเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจและความประทับใจที่ต้องการส่งต่อให้กับสังคม ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับเยาวชน แต่ยังเป็นการปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาตนเองที่สามารถนำไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคนในสังคม
นางสาวสุจิตรา โสมนัส คุณครูวิทยาการคำนวณและภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ เล่าว่า “กิจกรรมการเรียนการสอนเทคโนโลยีในโครงการจะเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ รอบตัวเด็ก เพื่อให้เด็กสนใจและเปิดใจในการเรียน ไม่มองว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องไกลตัว แม้ว่าตอนแรกเด็ก ๆ อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องของ AI และการเขียนโค้ด แต่พอได้ลองเรียนและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนในคาบวิชา ICS ที่ซัมซุงเข้ามาพัฒนาหลักสูตรและจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นในการเรียน ทำให้นักเรียนเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีและมีความกระตือรือร้นมากขึ้น เนื่องจากโครงการ Samsung Innovation Campus มีกระบวนการคิดที่ออกแบบมาให้เด็กสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น การฝึกภาษาอังกฤษผ่านการคุยกับ A.I และมีโปรแกรมที่ช่วยให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้นอย่าง ดรีมวีฟเวอร์ (Dreamweaver) เสริมร่วมกับวิชา HTML รวมทั้งเรายังใส่ใจเด็กพิเศษในห้องให้ได้รับความรู้อย่างเหมาะสมตามความสามารถ ซึ่งเห็นได้ว่าเด็ก ๆ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และเข้าใจเนื้อหาเกินครึ่ง”
การเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งน่ากลัวอีกต่อไปสำหรับเด็ก ๆ ที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ อย่าง เพลงรัก - สุวภัทร ทิมทะวงษ์ หนึ่งในนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ที่เคยกังวลกับการเรียนเขียนโค้ดและการใช้ A.I เล่าว่า “ตอนแรกกลัวและไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง A.I เลย แต่พอได้ลองเรียนแล้วกลับไม่ยากอย่างที่คิด ก่อนหน้านี้พวกเราเรียนอยู่แต่หน้าจอคอม รู้สึกเบื่อ และค่อยไม่เข้าใจ แต่พอซัมซุงเข้ามาพัฒนาการเรียนการสอนก็ได้ทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อนมากขึ้น ทำให้รู้สึกสนุก จำเนื้อหาได้มากขึ้น และยังสามารถใช้ A.I ช่วยค้นหาข้อมูลเวลาทำการบ้านหรือแปลภาษาได้สะดวกมากขึ้น ที่สำคัญคือครูใจดีและสอนสนุก ทำให้การเรียนเทคโนโลยีเป็นเรื่องสนุกไปด้วย ส่วนในอนาคตโตขึ้นฝันว่าอยากเป็นเภสัชกร และจะเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการค้นหาข้อมูล เรียนรู้สิ่งใหม่ และวางแผนในการทำงาน เพื่อเป็นเภสัชกรเก่ง ๆ ”
ด้านเมธาวี ใจแสน นักเรียนจากโรงเรียนวัดคลองสวนฯ ที่เข้าร่วมโครงการ Samsung Innovation Campus เล่าว่า “รู้สึกสนุกมากที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ และรู้สึกว่าเข้าใจเทคโนโลยีมากขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ A.I ตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ หรือใช้วางแผนจัดการตารางเรียนและการอ่านหนังสือ ส่วนอาชีพในอนาคต ฝันว่าอยากเป็นช่างทำผม และคิดว่าความรู้ด้านเทคโนโลยีจะสามารถช่วยในการทำงานได้ เช่น การวิเคราะห์ออกแบบเลือกทรงผมให้เข้ากับรูปหน้า”
เรื่องราวของน้อง ๆ จากโรงเรียนวัดคลองสวนฯ สมุทรปราการ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความสำเร็จในโครงการเท่านั้น ยังมีนักเรียนอีกมากมายทั่วประเทศรวมกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้ยกระดับความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยี ภายใต้โครงการ Samsung Innovation Campus พร้อมเปิดมุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน
?
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit