กนอ. ผนึกกำลังพันธมิตร ร่วมปลูกป่าชายเลนบางขุนเทียน สร้างแหล่งกักเก็บคาร์บอน เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก

20 Jun 2024

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับพันธมิตรองค์กรสื่อชั้นนำ จัดกิจกรรม "ร่วมลงมือปลูก เพิ่มแหล่งกักเก็บคาร์บอน" ณ ศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลน บางขุนเทียน กรุงเทพฯ หวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวใกล้เมืองหลวง ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

กนอ. ผนึกกำลังพันธมิตร ร่วมปลูกป่าชายเลนบางขุนเทียน สร้างแหล่งกักเก็บคาร์บอน เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 2567 (World Environment Day 2024) กนอ.ได้มีส่วนร่วมและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมกับพันธมิตรจากองค์กรสื่อชั้นนำ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน คิกออฟโครงการ "ร่วมลงมือปลูก เพิ่มแหล่งกักเก็บคาร์บอน" ณ ศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลน บางขุนเทียน กรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวใกล้เมืองหลวง สร้างแหล่งกักเก็บคาร์บอน และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

"กิจกรรมปลูกป่าชายเลนในครั้งนี้ สอดคล้องกับทิศทางของ กนอ. ที่มุ่งมั่นส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการยกระดับนิคมอุตสาหกรรมให้ได้มาตรฐานสากล ด้วยนวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน" นายวีริศ กล่าว

สำหรับความร่วมมือนี้ กนอ. ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ประกอบด้วย สำนักข่าว BusinessIntrend และ EconomicAlldays และ บริษัท สะ มะ ดุน จำกัด นับเป็นความร่วมมือเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในพันธกิจที่สำคัญด้านการเพิ่มพื้นที่แหล่งกักเก็บคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการขยายพื้นที่แหล่งอนุบาลสัตว์ทะเล เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศของชายฝั่งทะเลอ่าวไทย "กนอ. มองเห็นโอกาสในการบูรณาการความร่วมมือ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลบางขุนเทียน ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบนิเวศอ่าวไทย การสนับสนุนกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ไม่เพียงช่วยเพิ่มพื้นที่กักเก็บคาร์บอนให้ประเทศ สร้างสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ แต่ยังช่วยลดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รวมถึงสร้างอาชีพประมงพื้นบ้านให้ชุมชนอย่างยั่งยืนอีกด้วย" ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวปิดท้าย

HTML::image(