"ซีไอดีไอ อาร์ต ธีสิส โชว์เคส 2024" นิทรรศการแสดงผลงานและแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์กว่า 80 ชุด จุดประกายไอเดียนักออกแบบไทยสู่เวทีระดับโลก

20 Jun 2024

สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (CIDI Chanapatana) ตอกย้ำการเป็นสถาบันปั้นนักออกแบบรุ่นใหม่ จัดงาน ซีไอดีไอ อาร์ต ธีสิส โชว์เคส 2024 (CIDI ART THESIS SHOWCASE 2024) งานนิทรรศการแสดง ผลงานและแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ นักศึกษาสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม NOTHING TURNED ITSELF INSIDE-OUT หมายถึงช่องทางในการแสดงออก ที่ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงข้ามวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ส่วนบุคคล เป็นการก้าวข้ามสุนทรียภาพ ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมผ่านแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน การไม่แบ่งแยก ตลอดจนการหมุนเวียนนำกลับมาใช้อย่างสร้างสรรค์ทางด้านงานฝีมือและแฟชั่นในฐานะที่เป็นหนึ่งในสื่อทางวัฒนธรรม ผ่านการถ่ายทอดแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ผลงานจากนักศึกษาสาขาออกแบบแฟชั่น (Fashion Design) จำนวนรวมกว่า 80 ชุด ร่วมด้วยการแสดงผลงานการออกแบบของนักศึกษาสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Interior & Product Design) รุ่นที่ 22 ที่สำเร็จการศึกษา ณ คิว สเตเดียม ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์

"ซีไอดีไอ อาร์ต ธีสิส โชว์เคส 2024" นิทรรศการแสดงผลงานและแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์กว่า 80 ชุด จุดประกายไอเดียนักออกแบบไทยสู่เวทีระดับโลก

นายสิทธิพัฒน์ ธนสารสิน ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ กล่าวว่า "สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ ก่อตั้งมากว่า 24 ปี โดยมี 2 หลักสูตรการเรียนการสอนมาตรฐานระดับนานาชาติ คือสาขาออกแบบแฟชั่น และสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบโจทย์และช่วยพัฒนาทักษะที่ครบถ้วนสำหรับนักออกแบบ เพราะเรามีความเชื่อว่านักออกแบบที่จะประสบความสำเร็จ ต้องรู้และทำได้มากกว่าแค่เรื่องของการออกแบบ แต่ยังต้องเข้าใจธุรกิจ เข้าถึงผู้ผลิต มีโอกาสก้าวสู่ชุมชนของนักออกแบบที่พร้อมสนับสนุน และพร้อมสร้างความสำเร็จไปด้วยกัน ซึ่งการจัดงาน ซีไอดีไอ อาร์ต ธีสิส โชว์เคส 2024 ในครั้งนี้ เป็นการแสดงผลงานนักศึกษา รุ่นที่ 22 ที่จบการศึกษา โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อเปิดโอกาสให้กับนักออกแบบคนรุ่นใหม่ ที่มีใจรักการออกแบบ ได้มีเวทีในการแสดงออกถึงศักยภาพพร้อมสร้างสรรค์ผลงาน ก้าวสู่นักออกแบบมืออาชีพต่อไป"

ภายในงานได้จัดการแสดงแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่สำเร็จการศึกษา รวมกว่า 80 ชุด โดยมีคอลเลกชันไฮไลท์จากนักศึกษามาร่วมถ่ายทอดผลงานในครั้งนี้ อาทิ "Stitched Harmony: Upcycled Elegance" ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเท่าเทียมทางเพศและเชื้อชาติ การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุดในช่วงสงครามโลก (Make Do and Mend) การทอผ้าที่ประณีตตามแบบฉบับญี่ปุ่น และการ Patchwork โดยมีแฟรงเกนสไตน์เป็นแรงบันดาลใจ คอลเลกชันนี้สื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียว ความหลากหลาย และความเข้มแข็ง ซึ่งผ้าที่นำมาใช้เป็นผ้า Upcycling, "Cubist Dream" แรงบันดาลใจจากความสวยงามของกระเบื้องโมเสกของกาวดี (Gaudi) ที่มีลักษณะที่เป็นรูปร่างธรรมชาติไม่สมบูรณ์มาประกอบกันเป็นดอกไม้ที่มีความงดงามอันอ่อนโยนและมีเสน่ห์ ผสมผสานกับแฟชั่นยุค 60 ที่มีเสน่ห์ดึงดูดในรูปแบบของทวิกกี้กับการเปลี่ยนแปลงที่มากับลุค Androgynous ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากผู้อื่น เช่นเดียวกับมนุษย์แต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างคอลเลกชันที่มีความสวยงามจากความแตกต่างและไม่สมบูรณ์ และ "FEMME MYSTERIEUSE" ที่แปลว่าผู้หญิงลึกลับ น่าค้นหา ความรักในอิสระและเสน่ห์ของผู้หญิงที่มีความเซ็กซี่น่าค้นหา ผู้หญิงที่มีความเป็นตัวเอง เปรียบเสมือนผีเสื้อยามค่ำคืนที่โบยบินใต้แสงจันทร์ในป่าอันเงียบสงบ แม้จะดูน่ากลัวแต่เมื่อเข้าใกล้จะยิ่งหลงใหลและน่าค้นหามากขึ้น ผีเสื้อเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และการเจริญเติบโตจากความเจ็บปวด เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง อิสระ และการเกิดใหม่

นอกจากนี้มีภายในงานมีการแสดงผลงานศิลปนิพนธ์ของนักศึกษาสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Interior & Product Design) อาทิ "LUXON" โคมไฟตั้งโต๊ะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปลั๊กชาร์จของ TESLA และมีฟังก์ชันแบบ 2-in-1 เป็นโคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือหรือทำงาน และไฟฉายพร้อมแบตเตอรี่แบบชาร์จ USB มีระบบควบคุมแบบสัมผัสและทำจากพลาสติกไนลอนที่ทนทานพร้อมโครงสร้างไฟเบอร์กลาส, "The Cloud" โคมไฟสร้างพื้นที่ทำงานที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ได้รับแรงบันดาลใจจากเมฆ โดยมีเฉดสีฟ้าและแสงไฟนวลตาชวนให้นึกถึงท้องฟ้าที่แจ่มใส ในออฟฟิศสีน้ำเงินมักสื่อถึงความสงบ และความเป็นมืออาชีพ แนวคิดนี้รวมเอาโคมไฟรูปเมฆ การตกแต่งด้วยสีฟ้า และองค์ประกอบการออกแบบโดยรวมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบสุขและมีประสิทธิภาพ โคมไฟทำจากไม้สร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ พื้นผิวไม้ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความเรียบง่าย และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในสำนักงาน "The Cloud" โดยแนวคิดมาจากการออกแบบสำหรับออฟฟิศของ Disney คือการสร้างพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยพลังงานบวกและแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ทำงานในสถานที่นี้ โดยการผสมผสานพื้นที่สีเขียว และการใช้แสงจากธรรมชาติร่วมกับแสงสังเคราะห์ และ "Retail shop for Ralph Laurent Store" ได้รับแรงบันดาลใจและแนวคิดในการออกแบบมาจากร้าน Ralph Laurent มีกลิ่นอายความคลาสสิค และผสมกับการใช้ซุ้มโค้ง ทำให้ภายในร้านดูไม่แข็งจนเกินไปและมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้ลายแพทเทิร์นตารางบนพื้นตัดกับซุ้มโค้ง

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าเรียนที่สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ สามารถเข้าร่วมงาน Open House 2024 ได้ฟรี เพื่อฟังการแนะนำหลักสูตร พร้อมชมผลงานนักศึกษา และพูดคุยกับศิษย์เก่าที่สร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความพร้อมเข้าสู่วงการนักออกแบบ ในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ www.chanapatana.com/th/open-house, โทร 081-432-8555, ไลน์แอด: @cidichanapatana ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.chanapatana.com และ www.facebook.com/Chanapatana

HTML::image(