YDM Thailand เปิดเคส นำ "เจ้าสัว" ขนมและของฝากไทยกว่า 60 ปี ทรานส์ฟอร์มสู่โปรตีนสแน็ค "แบรนด์ของทานเล่นที่พร้อมทานได้ทุกวัน" ของคนรุ่นใหม่ ร่วมวิจัยการตลาด หาข้อมูลผู้บริโภคเชิงลึก กำหนดคุณค่าของแบรนด์ วางตำแหน่งแบรนด์และสินค้าในแต่ละเซ็กเมนต์ ผสานการทำงานแบบพาร์ทเนอร์ ระหว่างเอเจนซี่กับแบรนด์ วางกลยุทธ์สื่อสารการตลาดและออกแคมเปญอย่างต่อเนื่อง สร้างแบรนด์ "เจ้าสัว" ด้วยโซลูชันใหม่ ฉีกตำราเดิม เจาะตลาด Gen Z ผ่านการใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัล ควบคู่กับการสื่อสารแบรนด์และผลิตภัณฑ์แบบผสมผสานในรูปแบบใหม่ เพิ่ม Positive Consumer Voice กว่า 30 เท่า ระหว่างทำแคมเปญ เป็นหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่แบรนด์ในตลาด
นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า วายดีเอ็มได้ทำงานให้กับแบรนด์ "เจ้าสัว" ในฐานะเอเจนซี่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล มาเป็นเวลา 4 ปี ร่วมกันทรานส์ฟอร์ม "เจ้าสัว" จาก "แบรนด์ขนมและของฝากเก่าแก่ของไทยกว่า 60 ปี" สู่โปรตีนสแน็ค "แบรนด์ของทานเล่นที่พร้อมทานได้ทุกวัน" ของคนรุ่นใหม่ ผ่านการทำงานในรูปแบบการเป็นพันธมิตรด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับเอเจนซี่ โดยผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียว เพื่อสร้างแบรนด์เจ้าสัวให้เป็นที่รู้จัก พร้อมจับตลาดคนรุ่นใหม่ และสร้างยอดขายไปพร้อมกัน
"วายดีเอ็ม ทำงานให้กับ "เจ้าสัว" โดยเริ่มต้นการหาแบรนด์อินไซต์ และทำการศึกษาวิจัยผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ก่อนวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์และแบรนด์ จากผลิตภัณฑ์สู่แบรนด์ หรือ From "Product" to "Brand" โดยนำข้อมูลที่ได้มาวางแกนหลักของแบรนด์สำหรับใช้ในการทรานส์ฟอร์มแบรนด์ ผ่านแคมเปญสื่อสารการตลาด ดิสรัปแผนสื่อสารการตลาดแบบเดิม ๆ ด้วยการใช้การตลาดแบบดิจิทัล ผนวกกับการทำแคมเปญออนกราวด์ ที่นำไปสู่การซื้อผลิตภัณฑ์ "เจ้าสัว" ของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ กับแคมเปญล่าสุด "รู้งี้กินนานแล้ว" ในการร่วมขับเคลื่อนแบรนด์ให้บรรลุเป้าหมาย ตามแผนการตลาดที่ชัดเจนในระยะเวลาที่กำหนด" นายธนพลกล่าว
นางสาวทุติยา ดิสภานุรัตน์ กรรมการผู้จัดการ FCB BANGKOK ในเครือบริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลอินไซด์ผู้บริโภคสู่การทำงานร่วมกันในระยะเวลาที่ผ่านมา วายดีเอ็ม มองเห็นเทรนด์ และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนโอกาสทางการตลาดสำหรับแบรนด์ "เจ้าสัว" ซึ่งพบว่าการเป็น "ขนมโปรตีน" คือเข็มทิศชี้ทางการวางตำแหน่งแบรนด์ในตลาดที่ชัดเจนขึ้น ไม่เพียงเป็นโปรตีนสแน็ค เมนูของว่างที่สามารถทานรองท้อง และทานเพลินในชีวิตประจำวัน แต่ยังมาพร้อมโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นจุดแข็งที่สามารถเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์สายสุขภาพ ขณะเดียวกันยังพบช่องโหว่ทางการตลาดที่เกิดขึ้นระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ในการเดินหน้าขยายตลาด อย่างไรก็ดี ด้วยจุดแข็งแบรนด์ ที่มาพร้อมความท้าทายในตลาด ทำให้ผุดไอเดียแผนการตลาดแนวใหม่ที่สามารถขับเคลื่อนแบรนด์บรรลุเป้าหมายได้ทั้งการขยายฐานลูกค้า สร้าง Positive Consumer Voice และเพิ่มยอดขายไปพร้อม ๆ กันนั้น ควรเป็นกลยุทธ์การสื่อสารที่มาจากอินไซด์ที่มีต่อแบรนด์ ต่อยอดโมเดล O2O หรือ Online-to-Offline สู่การผสมผสานแผนการตลาดแนวใหม่ บนแคมเปญ "รู้งี้กินนานแล้ว" ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้
ตัวชี้วัดความสำเร็จของแคมเปญ "รู้งี้กินนานแล้ว" ในช่วงตลอดระยะเวลา 3 เดือน ที่ชัดเจน คือ การสร้าง Positive Consumer Voice บนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มได้สูงขึ้นกว่า 30 เท่า และขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 24 ปี โดยเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้จากแต่เดิมอยู่ที่ 33.33% เป็น 46.23% นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยเพิ่มสัดส่วน บาลานซ์กลุ่มเป้าหมายผู้หญิงและผู้ชายให้มีความใกล้เคียงกัน โดยเป็นผู้หญิง 57.55% และเป็นผู้ชาย 42.45% จากแต่เดิมผู้หญิง 83.33% ผู้ชาย 16.67% ผลลัพธ์จากแคมเปญนี้ช่วยแก้ปัญหาของแบรนด์ที่ไม่สามารถคอนเนคกับคนรุ่นใหม่ได้ อีกทั้งยังเพิ่มการพูดถึงข้าวตังเจ้าสัวและรสชาติความอร่อยในวงกว้าง กระตุ้นให้เกิดการทดลองชิมสินค้าสร้างยอดขายให้เติบโตต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกี่ยวกับการศึกษาและแนวทางการใช้กลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มแบรนด์ เพื่อเพิ่ม Brand Engagement สู่เป้าหมายธุรกิจที่สอดรับกับเทรนด์มาร์เก็ตติ้งในปี 2567 ได้ที่วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) https://www.ydmthailand.com
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit