เอชเอสบีซี โกลบอล ไพรเวทแบงก์กิ้งแอนด์เวลธ์ เผย เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงร้อยละ 1.5 ในไตรมาส 1 ของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 แต่อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง และการลงทุนในประเทศไทยก็ยังทรงตัว สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี มาตรการทางการคลังอาจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แม้จะยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับงบประมาณและกรอบระยะเวลาของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐก็ตาม ส่วนการกลับมาของนักท่องเที่ยวเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงไฮซีซั่นในระหว่างเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2567 และพฤศจิกายน - ธันวาคม 2567"แม้ว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นในช่วงหลังของปี 2567 แต่เรายังคงรักษาจุดยืนต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่าต้องใช้ความระมัดระวังโดยพิจารณาจากการประเมินศักยภาพในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมหภาค ในขณะที่มองว่ามีโอกาสที่น่าสนใจมากกว่าในตลาดหุ้นอื่นๆ ของเอเชีย นอกจากนั้นเรายังมองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โดยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 2.5 ต่อไป " นายเจมส์ กล่าว4 ธีมการลงทุน เพื่อคว้าโอกาสทองสร้างการเติบโตและรายได้ในเอเชียเอเชียครองแชมป์การปฏิรูปบรรษัทภิบาล รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลในเอเชียต่างกำลังเร่งปฏิรูปองค์กรธุรกิจเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับนักลงทุนและยกระดับมูลค่าตลาดหุ้นให้ทัดเทียมตลาดโลก โดยเราเชื่อว่าบริษัทในญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้จะได้รับประโยชน์จากการปฏิรูปการกำกับดูแลกิจการนี้ เนื่องจากบริษัทในประเทศเหล่านี้มีเงินสดสำรองจำนวนมาก มีหนี้สินต่ำ และมีความสามารถทางการเงินในการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นผ่านเงินปันผล การซื้อหุ้นคืน และกลยุทธ์ในการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทการปรับโฉมห่วงโซ่อุปทานของเอเชีย กลุ่มผู้นำการผลิตระดับไฮเอนด์ของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน จะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานอย่างรวดเร็วในเอเชีย เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ของโลก ส่วนในกลุ่มอาเซียนนั้น สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนามกำลังมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จากการเป็นตลาดใหม่ขนาดใหญ่และฐานการผลิตที่มีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะสำหรับบริษัทจีนที่เติบโตได้ช้าลงในประเทศและต้องการขยายธุรกิจในอาเซียนด้วยกลยุทธ์ China+1การเติบโตของอินเดียและอาเซียน ธีมการลงทุนนี้มาจากการเล็งเห็นโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียและอาเซียนจากปัจจัยบวก ได้แก่ จำนวนประชากรวัยหนุ่มสาวที่เพิ่มขึ้น การขยายตัวของชนชั้นกลาง การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวคว้าผลตอบแทนการลงทุนในเอเชียจากตลาดอัตราดอกเบี้ยสูง เรามุ่งเน้นหาผลตอบแทนระดับสูงจากการลงทุนตราสารหนี้ภูมิภาคเอเชียในกลุ่มที่มีอันดับเครดิตน่าลงทุน (IG) โดยเฉพาะในกลุ่มอายุคงเหลือ 5-7 ปี เพื่อสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการที่อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ดูเหมือนจะเริ่มในเดือนกันยายน ทั้งนี้ เราคาดว่าธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชียหลายแห่งจะเริ่มทยอยลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ดังนั้น เราจึงมุ่งเป้าการลงทุนไปที่ภาคการเงินของญี่ปุ่นและเกาหลีและตราสารหนี้ระดับการลงทุนของบริษัทเอกชน ตลอดจนตราสารหนี้สกุลเงินท้องถิ่นของอินเดีย รวมถึงลงทุนในตราสารหนี้ Quasi-Sovereign ระดับ IG ของอินโดนีเซีย และตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบันเทิงในมาเก๊า รวมทั้งกลุ่มเทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคมในประเทศจีน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit