ฟาร์มโคนมเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมอาหาร การจัดการฟาร์มให้เหมาะสมจะส่งผลดีต่อต้นทุนของเกษตรกร คุณภาพของน้ำนม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนสท์เล่นำทัพพนักงานจิตอาสา ภายใต้โครงการ Nestle CARES ลงพื้นที่ฟาร์มโคนมสมาชิกสหกรณ์โคนมชุมพวง อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา สร้างลานปูนสำหรับตากมูลโคเพื่อช่วยจัดการของเสียจากฟาร์มโคนม ซึ่งนอกจากจะเปลี่ยนมูลโคให้มีมูลค่าแล้วยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ซึ่งเน้นไปที่เทคนิคการจัดการของเสียในฟาร์มที่สร้างสรรค์และส่งผลดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและเกษตรกรในท้องถิ่น
เนสท์เล่ได้ส่งเสริมและให้ความรู้กับเกษตรกรไทยเกี่ยวกับการจัดการฟาร์มโคนมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2525 นักวิชาการการเกษตรของเนสท์เล่ได้ช่วยให้เกษตรกรโคนมได้พัฒนาคุณภาพและปริมาณของน้ำนมดิบผ่านการให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการฟาร์มโคนม ระบบโภชนาการอาหารโค รวมถึงการจัดการของเสียอย่างเป็นระบบ ซึ่งนอกจากจะเป็นผลดีต่อเกษตรกรและผู้บริโภคแล้ว ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นไปตามเป้าหมายของเนสท์เล่ในด้านการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์การเดินหน้าขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา หรือ Good for the Planet เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050
การจัดการของเสียในฟาร์มโคนมอย่างสร้างสรรค์ ประกอบไปด้วย
นางสาวเจนิกา คอนเด ครูซ ผู้จัดการฝ่ายนวัตกรรมองค์กรและความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า "เนสท์เล่ ประเทศไทย จัดกิจกรรมจิตอาสาสำหรับพนักงาน หรือ Nestle CARES มาเป็นเวลาต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 และมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำลานปูนเพื่อสนับสนุนเกษตรกรในการจัดการฟาร์มโคนมตามหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู รวมไปถึงปรับปรุงทัศนียภาพ และภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณโดยรอบฟาร์มโคนมของเกษตรกร โดยครั้งนี้เราได้สร้างลานปูนขนาดมาตรฐานที่ตากมูลโคได้ถึง 80 กระสอบ ช่วยเหลือเกษตรกร 10 ฟาร์ม เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้นอกจากจะส่งเสริมให้เกษตรกรมีแนวทางการจัดการมูลโคอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนแล้ว ยังช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกด้วย ในขณะเดียวกัน พนักงานเนสท์เล่ที่ร่วมกิจกรรมก็จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟูในฟาร์มโคนม ซึ่งเป็นเรื่องที่เนสท์เล่ให้ความสำคัญ"
นายวิเศษ คำเกิด ประธานสหกรณ์ฟาร์มโคนม อำเภอชุมพวง กล่าวว่า "รู้สึกดีใจที่ทางเนสท์เล่เห็นความสำคัญของเกษตรกรที่เป็นคู่ค้ากันมานาน เพื่อการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพน้ำนมดิบให้ดียิ่งขึ้นเพื่อผู้บริโภค ทางสหกรณ์ทำงานร่วมกับเนสท์เล่มา 30 ปีแล้ว ผมรู้สึกดีใจที่เนสท์เล่เข้ามาทำกิจกรรมเทลานปูนตากมูลโคให้แก่เกษตรกรเพราะยังไม่เคยมีใครเข้ามาทำอะไรแบบนี้มาก่อน การทำลานปูนในครั้งนี้ทำให้เราสามารถเก็บมูลโคออกมาตากแห้งได้เร็วขึ้นกว่าเดิม และได้มูลโคที่สะอาด ไม่มีสารปนเปื้อน ลดการปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ขอบคุณทางเนสท์เล่และหวังว่าในอนาคตทางเนสท์เล่จะเข้ามาจัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้อีก"
ฟาร์มโคนมในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การเกษตรแบบใหม่ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู ซึ่งส่งเสริมเรื่องการจัดการของเสียในฟาร์มอย่างเป็นระบบเพื่อช่วยให้เกษตรกรฟาร์มโคนมสามารถทำปศุสัตว์อย่างยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit