บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ประกาศความสำเร็จ "หลักสูตร LEAD โดยเซ็นทรัลพัฒนา" หลักสูตรรีเทลที่สร้างความสำเร็จให้กับผู้เรียนทุกรุ่นกว่า 180 แบรนด์ ตั้งแต่ปี 2017 (พ.ศ. 2560) สร้างมูลค่าการเติบโตทางธุรกิจมากถึง 2,500 ล้านบาท และทุกแบรนด์ยังมีโอกาสที่จะ scale up ธุรกิจต่อไปเรื่อยๆ ในหลายรูปแบบ บน Retail Ecosystem ของเซ็นทรัลพัฒนา อาทิ Beautrium และ Salad Factory ที่ได้ร่วมทุนกับกลุ่มเซ็นทรัล และอีกหลายแบรนด์ที่มีการขยายสาขา และหน้าร้านเพิ่มขึ้นมากถึง 165% เทียบกับปีแรกที่ดำเนินโครงการ โดยมีแบรนด์ยอดเยี่ยมที่น่าศึกษาประจำหลักสูตร LEAD รุ่น 5 คือ KIM & CO., SELF. SMOOTHIE, BOTTOMLESS, HOLEN และ COVE ซึ่งพร้อมจะแชร์ Fast track learning และ Fast track opportunity สู่การต่อยอดธุรกิจให้เติบโต จากการเข้าร่วมหลักสูตร LEAD
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ผู้ผลักดันโครงการ LEAD ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม กล่าวว่า "ผู้ประกอบการที่เข้ามาอบรมในหลักสูตรนี้ มีทั้งแบรนด์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงมั่นคงแล้ว แต่ยังคงเปิดใจที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาต่อไป รวมถึงแบรนด์น้องใหม่จากผู้ประกอบการที่อายุเพียง 20 กว่าๆ มี Passion กล้าคิด กล้าลอง ทำให้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในระหว่างที่เรียนหลักสูตร LEAD ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า Nobody is too small to grow 'ทุกคนโตได้' อาจขยับไปทีละ format เริ่มจากเปิดเป็น Kiosk, Pop-up store แล้วค่อยเปิดเป็นร้านถาวร และขยายต่อไป ซึ่งมีหลายแบรนด์จากหลักสูตร LEAD ที่ขยายสาขาไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ เช่น
และ "RAVIPA" ที่เริ่มธุรกิจจากการขายทางออนไลน์ เปิดในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 9 สาขา แล้ว เป็นต้น
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงสิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับจากหลักสูตร LEAD เท่านั้น ได้แก่ 1. LEAD คือ Fast Track learning ผู้ประกอบการไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง โดยเรามี expertise ด้านต่างๆ ช่วยให้คำแนะนำตลอดหลักสูตร และได้ทดลองขายในพื้นที่ Prime Area ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทำให้เข้าใจธุรกิจของตัวเองและวางกลยุทธ์ธุรกิจจากการได้เห็นตลาดและลูกค้าที่หลากหลาย, ได้ลองสร้าง Business Model ใหม่ๆ หรือสินค้า-บริการ ใหม่ๆ, ได้เห็นระบบ Supply Chain & Operation ที่แข็งแกร่ง, ได้เรียนรู้การสร้าง Sustain for Community และอีกหลายเรื่อง 2. LEAD คือ Fast Track Opportunity ในการเข้าสู่ Retail Ecosystem ที่ดี มีโอกาสเติบโตไปกับเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งมีการลงทุนเปิดสาขาใหม่ๆ ทุกปี
และเมื่อเป็นคู่ค้าของเราแล้ว ยังมีโอกาสเข้าสู่ The 1 BIZ - Marketing Intelligence Solutions ซึ่งเป็น The Most Powerful CRM Tool ช่วยให้ผู้ประกอบการร้านค้าประหยัดต้นทุนและเวลาในการทำ CRM
ผศ.ปิติพีร์ รวมเมฆ ที่ปรึกษาโครงการ LEAD และ CEO & Founder บริษัท เอมบิชั่น คอร์ป จำกัดกล่าวเสริมว่า "ผู้เข้าร่วมหลักสูตร LEAD โดยเซ็นทรัลพัฒนา เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็น Entrepreneur สูง หลักสูตรนี้ไม่ได้เน้นให้ผู้เรียนต้องแก้ไขอะไรบ้าง แต่เราช่วยมองว่าอะไรคือความเด่นของแบรนด์ เพื่อให้เค้าดึงขึ้นมาเป็นจุดขาย และพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก และการที่เซ็นทรัลพัฒนาจัดพื้นที่ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสได้ทดลองตลาด ทำให้ได้รับ feedback จากลูกค้า ได้เช็กว่าในตลาดจริงเป็นตามที่คิดไว้หรือไม่ หรือควรปรับกลยุทธ์ไปในทิศทางใด และเมื่อจบหลักสูตรแล้ว ยังมีการสร้าง Partnership & Network ของผู้เรียนทุกรุ่น พร้อมที่จะช่วยเหลือกัน หรือทำธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเรียนรุ่นเดียวกันหรือไม่"
"สำหรับหลักสูตร LEAD รุ่นที่ 6 ที่กำลังเปิดสอนอยู่ขณะนี้ เน้นเรื่อง Growth & Sustainability ซึ่งนอกจากการให้ Knowledge และ Knowhow ต่างๆ แล้ว ยังมีเป้าหมายให้แต่ละแบรนด์ได้รู้จักตัวเอง และดึงออกมาใช้ ด้วยการทำ Business Health Check ซึ่งจะนำไปส่งการคิดอย่างเป็นระบบ และวางแผนธุรกิจอย่างมีกลยุทธ์"
วิเคราะห์ความสำเร็จจากแบรนด์ยอดเยี่ยมในคอร์ส LEAD รุ่นที่ 5 โดยเซ็นทรัลพัฒนา
ต้องตา กล่าวว่า "หลักสูตร LEAD คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ทำให้รู้จักวางแผนธุรกิจอย่างเป็นระบบ เช่น จะเพิ่มกำไรขั้นต้นต้องทำอย่างไร, จะใช้ resource และ facility เดิมที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร เป็นต้น และ LEAD ยังเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์กระเป๋าชื่อ TIA เพราะกระเป๋าไม่มีไซซ์ ทำให้การจัดการสต๊อกง่ายขึ้น และเราก็ยังคงยึดแนวทางที่ได้จากการทดลองตลาดกับ LEAD Pop-up Market คือการรับฟัง feedback และความต้องการของลูกค้า เพื่อมาพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง"
ณภัสสร กล่าวว่า "หลักสูตร LEAD ทำให้เห็น Framework ในการวิเคราะห์แบรนด์อย่างมีกลยุทธ์ และมีที่มาที่ไป ทำให้เราตัดสินใจขยับธุรกิจได้ง่ายและมั่นใจขึ้นเพราะมี back up reason นอกจากนี้ยังนำไอเดียในการทำธุรกิจของเพื่อนๆ ร่วมหลักสูตรมาปรับใช้ได้เหมือนกัน"
นพพล กล่าวว่า "BOTTOMLESS ไม่ได้เน้นทำการตลาดหรือโฆษณาเยอะ แต่คอกาแฟทุกคนรู้จักเราดี ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการใช้ของที่ดีจะขายตัวเองได้ แต่หลังจากที่เข้ามาเรียนในหลักสูตร LEAD แล้ว เรารู้สึกว่าตัวเล็กลง LEAD ทำให้เข้าใจในเรื่องต่างๆ ได้ลึกมากขึ้น และอยากพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้น มีความกระหายที่จะสู้ในเกมส์ธุรกิจต่อไป โดยเฉพาะความรู้เรื่อง Finance ซึ่งสำคัญมากสำหรับการขยายธุรกิจ เก่งแค่เรื่องกาแฟคงไม่พอ"
วิพาสน์พร กล่าวว่า "หลักสูตร LEAD ทำให้สามารถต่อยอดจาก ยาดมโฮเล่น สู่ โฮเล่น อโรมาดม ที่ลูกค้า Customize ทุกอย่างเองได้ เป็นไอเดียที่เกิดขึ้นจากการทดลองนำเสนอสินค้าแนวนี้ให้กับลูกค้าคนไทยครั้งแรก ในงาน LEAD Pop-up Market ที่เซ็นทรัลเวสต์เกต ได้ผลตอบรับที่ดีมาก จึงได้ขยายสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลพัทยา นอกจากนี้ โฮเล่นยังมีโอกาส collab กับแบรนด์ร่วมรุ่น สร้างสรรค์สินค้าใหม่ภายใต้แนวคิด Hanuman Have a Good Night ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวรรณคดีไทยรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอมพลับพลา เช่น ร่วมมือกับแบรนด์ Bottomless ออกแบบสูตรกาแฟ Decaf ปราศจากคาเฟอีน เพื่อช่วยเรื่องการนอนหลับ, ร่วมมือกับแบรนด์ Self ร้านสมูทตี้ผลไม้ 100% ออกแบบชุดนอนสำหรับผู้หญิงที่รักสุขภาพ เป็นต้น"
เอกพล กล่าวว่า "ระหว่างที่อบรมในหลักสูตร LEAD ก็ได้นำมาปรับใช้แผนงานในการออกสินค้าใหม่ไปด้วย เรียกว่าเรียนไป ก็นำไปใช้จริงอยู่ตลอดเวลา โดยเห็นชัดเจนว่า เรามีการวางแผนในการออกสินค้าใหม่อย่างเป็นระบบ และมีความแม่นยำในการผลิตสินค้าใหม่มากขึ้น ทำให้สามารถเติบโตได้เกือบ 100% ภายใน 1 ปี"
แบรนด์ที่เข้าร่วมหลักสูตร LEAD รุ่นที่ 5 อาทิ: ANOTHER CUP, ANYWEAR STUDIO, BABY GIFT, BANGKOK GOLDS, BARKETEK, BEEF EXPRESS, BILIX, BLUETTI, BOTTOMLESS, CHAGEE, COVE, COZZY SAY I DO, FRENCH KITSCH CAFE, F.Y.I. MARKET, GRUMPY, HAEWON, HASS, HOLEN, KIM&CO. MULTI BRAND, LUHMSEN NOODLE, MEMOCLOTHING, MOLTO PREMIUM GELATO, OPTICSQUARE, PETCHPANTRA, POTATO CORNER, RUBBER IDEA, RYUJIN SUSHI , SELF. SMOOTHIES, SKINLAB, TOOM SUSHI, ZEQUENZ, ข้าวนกกระยางคู่, ห้างทองเยาวราชดีเยี่ยม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit