กว่า 2 ทศวรรษ กับการพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยความมุ่งมั่นของมูลนิธิไฟเซอร์ ประเทศไทย

มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย เป็นองค์กรการกุศลที่ดำเนินงานอย่างอิสระ ที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2544 สนับสนุนโดย บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีภารกิจหลักในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทยด้วยการบูรณาการศักยภาพ และความเชี่ยวชาญกับพันธมิตรภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งองค์กรภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน และสถาบันการศึกษาที่ยึดถือคุณค่าร่วมกันในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิตรวมถึงส่งเสริมการศึกษา และทักษะความรู้ในการเสริมสร้างศักยภาพ พร้อมด้วยการปลูกฝังวัฒนธรรมของการรู้จักให้ในสังคม โดยตลอดเวลา 20 กว่าปีที่ก่อตั้งมา มูลนิธิไฟเซอร์ฯ มุ่งมั่นในการ "มอบความรู้สู่คุณภาพชีวิตที่ดีมีสมดุล" (Promoting Wellness Literacy) เสริมสร้าง 3 ด้านหลัก คือ การศึกษา สุขภาพ และ คุณภาพชีวิต เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ผู้ต้องการโอกาสซึ่งจะเป็นรากฐานที่ยั่งยืนในการดำเนินชีวิต โดยได้สนับสนุนกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ อาทิ

ส่งเสริมการศึกษา

โครงการให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องแก่นักเรียน นักศึกษาที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เพื่อพัฒนา และส่งเสริมให้เกิดบุคลากรทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ มากขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานความรู้ และความสามารถของบุคลากรสาธารณสุขในประเทศ โดย มูลนิธิไฟเซอร์ฯ ได้สนับสนุนทุนการศึกษาในระดับมัธยมปลาย และระดับปริญญาตรีสาขาแพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ และระดับปริญญาเอกโครงการพัฒนาแพทย์ 3 ปริญญา จนถึงวันนี้ มูลนิธิไฟเซอร์ฯ ได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาไปแล้วมากกว่า 1,200 ทุนผ่านทางสถาบันการศึกษา 19 แห่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้นมากกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งผู้ได้รับทุนการศึกษานอกจากเป็นผู้เรียนดีแล้วยังเป็นผู้มีจิตอาสาอุทิศตนทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องสมดังปณิธานของมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนโครงการแนะแนวจริยธรรมทางการแพทย์แก่นักศึกษาแพทย์จบใหม่ร่วมกับแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 นอกจากนั้นยังได้ริเริ่มโครงการใหม่ ๆ โดยขยายโอกาสไปยังเด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล

พัฒนาคุณภาพชีวิต

มูลนิธิไฟเซอร์ฯ มุ่งสร้างเสริมโอกาสสู่การพัฒนาศักยภาพในการพึ่งพาและพัฒนาตนเอง เพื่อเพิ่มพูนความรัก การนับถือและความภาคภูมิใจในตัวเองแก่ผู้ต้องการโอกาส อาทิ เพิ่มพูนความรู้ด้านสุขภาพและสาธารณสุขให้แก่ชุมชน สร้างโอกาสการประกอบอาชีพ และความเข้าใจที่ถูกต้องในการอยู่ร่วมกันกับผู้ที่ได้รับเชื้อเอชไอวีและผู้คนรอบข้างโดยได้สนับสนุนโครงการรณรงค์เพื่อป้องกันและรักษาผู้ป่วยเอดส์ร่วมกับกรมควบคุมโรคและกรมสุขภาพจิต อีกทั้งยังสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพเยาวชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากธรณีพิบัติภัยสึนามิ ด้วยการสนับสนุนโครงการ ร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยในการพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชนในพื้นที่ภัยพิบัติสึนามิใน จ. พังงา และยกระดับขีดความสามารถในการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตของเยาวชนที่ต้องการโอกาสในท้องถิ่นห่างไกล เช่น โครงการ "พัฒนาทักษะการอ่านและทักษะชีวิตที่จำเป็นของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล" ใน จ. สตูล และยังได้สนับสนุนสมาคมสายใยครอบครัวในโครงการส่งต่อองค์ความรู้จากผู้ดูแลผู้ป่วยไบโพล่าร์ เป็นต้น

ส่งเสริมสุขภาพ

มูลนิธิไฟเซอร์ฯ ดำเนินโครงการส่งเสริมทั้งสุขภาพกาย และใจแก่สังคมทั้งในยามปกติและในยามเกิดภัยพิบัติ ด้วยการสนับสนุนแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านสุขภาพและการป้องกันโรค การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ยาจนถึงการเผยแพร่ความรู้และช่วยเหลือผู้ป่วยโรคที่เป็นภัยคุกคามสำคัญ อาทิ โรคมะเร็ง และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยทั้งในระยะสั้นด้วยการบริจาคยาและเวชภัณฑ์และสนับสนุนการฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจในระยะยาว ตัวอย่างได้แก่โครงการ "ไฟเซอร์ รู้-เฒ่า-ทัน-สุข"    ที่ได้สนับสนุนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559-2562 ร่วมกับสถาบันคีนันแห่งเอเชียเพื่อมอบความรู้สู่การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพตั้งแต่วัยก่อนสูงอายุจนถึงวัยสูงอายุ เพื่อให้สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นรากฐานในการพัฒนาในด้านอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต และอีกหนึ่งโครงการที่มูลนิธิไฟเซอร์ฯ ภาคภูมิใจ คือ โครงการก่อสร้างศูนย์ปฐมพยาบาลชุมชน (Pfizer First-Aid Center) จำนวน 10 แห่งในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งได้ส่งมอบไปเรียบร้อยทั้งสิ้นแล้วจำนวน 9 แห่ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ที่เริ่มโครงการใน 8 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี อุทัยธานี บุรีรัมย์ ระนอง เชียงใหม่ (2 ศูนย์) จันทบุรี เพชรบุรี และสตูล เพื่อให้บริการแก่นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนตลอดจนคนในชุมชนที่อยู่ห่างไกลจากสถานพยาบาลได้ใช้ประโยชน์ และกำลังจะส่งมอบศูนย์ที่ 10 ที่ จ. พังงาภายในปีนี้ โดยเป็นการร่วมทำงานกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ที่เป็นพันธมิตร เราต้องการให้ศูนย์ปฐมพยาบาลชุมชนของไฟเซอร์เป็นประโยชน์แก่ทั้งโรงเรียนและชุมชนในการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการป้องกันโรคต่าง ๆ รวมทั้งการรักษาพยาบาลเบื้องต้นก่อนประสานงานนำส่งต่อสถานพยาบาลที่อยู่ห่างไกลออกไปในกรณีเมื่อพบอาการเจ็บป่วยที่ต้องได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ป่วย โดยได้รับการร่วมมือช่วยเหลือสนับสนุนอย่างดีจากแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่รับผิดชอบแวะเวียนมาให้คำแนะนำและให้บริการตรวจสุขภาพกับชุมชนตามแผนงานที่วางไว้ นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการดูแลสุขอนามัย และให้ความรู้ทางด้านสุขภาพในโอกาสต่าง ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ ในโรงเรียนและชุมชนสามารถเข้าถึงบริการทางด้านสุขภาพ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้สะดวกขึ้น

อมรา จันทร์เปล่ง เลขานุการมูลนิธิไฟเซอร์ฯ และผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัทไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่าให้ฟังว่า "รู้สึกภูมิใจและเป็นกำลังใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นผลลัพธ์เชิงบวกมากมายจากการทำงานอย่างทุ่มเทของมูลนิธิไฟเซอร์ฯ ซึ่งมุ่งมั่นที่จะสร้าง "สังคมที่คนในสังคมมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี" ตลอดระยะเวลา 23 ปีที่เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรจากภาคส่วนต่ง ๆ เพื่อส่งมอบคุณค่าอย่างยั่งยืนให้แก่สังคมไทย โดยการส่งเสริมการมอบ "ความรู้สู่คุณภาพชีวิตที่ดีมีสมดุล" ให้กับสังคม ถือเป็นคุณค่าหลักของมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย ซึ่งเราเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในคุณค่าของการให้โอกาสแก่ผู้ที่ต้องการโอกาส เพื่อให้พวกเขามีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถทำงานปฏิบัติหน้าที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี"

ด้าน มาร์ค คาว (Mark Kuo) ประธานมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย และผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้มุมมองในการดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิไฟเซอร์ฯ ไว้ว่า "การดำเนินกิจกรรมมูลนิธิฯ กว่า 2 ทศวรรษในสังคมไทยด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการเสริมสร้างสุขภาพคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทย เป็นเรื่องที่เราภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ในฐานะบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำแห่งหนึ่ง เราไม่เพียงแต่มีความมุ่งมั่นในการนำเสนอยาและวัคซีนที่เป็นนวัตกรรมความก้าวหน้าในการรักษาและป้องกันโรค (Breakthroughs that change patients' lives) แต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย มูลนิธิไฟเซอร์ฯ จึงถือเป็นแนวทางหนึ่งของการดำเนินการตามเป้าประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ป่วย"

"ผมขอขอบคุณพันธมิตร ผู้สนับสนุน และคนไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทยตลอด 23 ปีที่ผ่านมาในการเสริมสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทยโดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องการโอกาส เราพร้อมเสมอที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย" มาร์ค คาว กล่าวปิดท้าย

• ข่าวไฟเซอร์
• ข่าวมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย
• ข่าวมูลนิธิไฟเซอร์
• ข่าวมูลนิธิไฟเซอร์ฯ
• ข่าวนานถึง