'บมจ.นีโอ คอร์ปอเรท' ชูศักยภาพก้าวสู่บริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ประกาศลงทุนด้านเทคโนโลยีขยายกำลังการผลิต คลังวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์สมัยใหม่ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้น สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน หลังเข้าเทรด SET
'บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โชว์ฟอร์มเป็นหุ้นสินค้าอุปโภคตัวแรก ปักธงลงทุนเทคโนโลยียกระดับกระบวนการผลิต ขยายคลังวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์สมัยใหม่ มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ที่มีคุณภาพโดดเด่นและแตกต่าง ก้าวสู่บริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภคและธุรกิจเติบโตยั่งยืน
นายสุทธิเดช ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ" หรือ "NEO") เปิดเผยว่า ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรก (9 เมษายน 2567) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค/ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ โดยใช้ชื่อย่อ 'NEO' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ที่วางรากฐานอย่างแข็งแกร่ง การยกระดับเทคโนโลยีสมัยใหม่ขยายกำลังการผลิตภายในโรงงาน คลังวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ พร้อมกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์โดดเด่นเทียบเท่าระดับสากล จะช่วยสนับสนุนให้ NEO เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยบริษัทฯ มีเป้าหมาย "มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภค" เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลชีวิตประจำวันของทุกคนให้ได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับความสุขของผู้บริโภคให้ทุกวันดียิ่งขึ้น (Uplift The Essentials for Everyday Betterment)
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายการลงทุนในปี 2567-2570 คาดว่าใช้เงินลงทุน 6,530 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการลงทุนขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน (Household Products) ซึ่งรวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือนสำหรับเด็ก เพิ่มกำลังการผลิต 163,200 ตันต่อปี โครงการขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล (Personal Care Products) ซึ่งรวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลสำหรับเด็ก เพิ่มกำลังการผลิต 18,100 ตันต่อปี และโครงการขยายคลังวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ และระบบบริหารจัดการคลัง เพิ่มพื้นที่จัดเก็บ 18,200 พาเลท โดยทั้งสามโครงการจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตรวมของบริษัทฯ เป็นประมาณ 416,082 ตันต่อปี และจำนวนพาเลทสำหรับคลังวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ เป็นประมาณ 29,620 พาเลท ในปี 2570
นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ หัวหน้าสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า NEO เป็น ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่โดดเด่นและแตกต่างสามารถตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคยังมีศักยภาพเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคใช้ในชีวิตประจำวันในทุกวัน ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มยกระดับวิถีชีวิตให้ดีขึ้นโดยการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมมากขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการก้าวสู่สังคมเมือง (Urbanization) และวิถีชีวิตใหม่ด้านสุขอนามัยของผู้บริโภค มั่นใจว่าจะผลักดันให้ NEO สร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit