บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ได้รับการจัดอันดับใน Sustainability Yearbook ประจำปี 2567 จาก S&P Global ในฐานะบริษัทที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและยอดเยี่ยมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งครั้งที่เดลต้า ประเทศไทยเป็นบริษัทหนึ่งเดียวในประเทศไทยในกลุ่ม "ชิ้นส่วนอุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์" ที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Sustainability Yearbook ประจำปี 2567 โดยก่อนหน้านี้เดลต้า ประเทศไทยยังได้รับรางวัล S&P Global Bronze Class Award และอีกสองรางวัลจากเวที S&P Global Silver Class Awards ในฐานะบริษัทที่เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย
นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเดลต้า ประเทศไทย กล่าวว่า "เดลต้ารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่สามารถคงตำแหน่งความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย เรารู้สึกภาคภูมิใจที่รับคัดเลือกให้อยู่ทั้งในรายงาน Sustainability Yearbook และดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ซึ่งเป็นการประเมินความยั่งยืนในระดับโลกสำหรับชุมชนนักลงทุนระหว่างประเทศ โดยเดลต้าได้ร่วมมือกับทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งต้นน้ำและปลายน้ำในการวัดผลและดำเนินการเชิงกลยุทธ์ เพื่อปรับปรุงในด้านความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพพร้อมทั้งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งความโดดเด่นของผลการดำเนินงานด้าน ESG ของเดลต้า ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก"
สมาชิก Yearbook จะได้รับการคัดเลือกตามคะแนนจากการประเมินความยั่งยืนขององค์กร S&P Global 2023 หรือคะแนน CSA ซึ่งเดลต้าได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ยั่งยืนในภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากได้รับคะแนนอยู่ในกลุ่ม 15% แรกของอุตสาหกรรม และคะแนน CSA กว่า 30% ของบริษัทที่มีผลงานในระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม
รายงาน Sustainability Yearbook ประจำปี 2567 โดย S&P Global อิงตาม CSA (กระบวนการประเมินด้านความยั่งยืน) จากปี 2566 ของบริษัทชั้นนำทั่วโลก 9,400 องค์กร ใน 62 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยเอกสารอัปโหลดกว่า 174,000 ฉบับ และมีจุดเก็บรวบรวมข้อมูลรวมถึง 16,500,000 จุด โดยตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ระเบียบวิธีการที่ได้รับการแก้ไขใหม่จะปรับแนวทางของ Yearbook ให้สอดคล้องไปกับเกณฑ์ที่ใช้ในการเลือกบริษัทเข้าสู่ดัชนี S&P Global ESG มากขึ้น
S&P Dow Jones Indices และ RobecoSAM ร่วมกันคิดค้นดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2542 โดยเป็นดัชนีระดับโลกตัวแรกที่สามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินการด้านความยั่งยืน ตลอดจนติดตามความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจ สังคม และธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำทั่วโลก โดยในปีนี้ S&P Global เป็นผู้เผยแพร่รายงาน Sustainability Yearbook 2020 ภายใต้ความร่วมมือกับ RobecoSAM หลังจากที่ S&P Global ได้เข้าซื้อกิจการ ESG Ratings จาก RobecoSAM
ตั้งแต่ปี 2561 เดลต้า ประเทศไทยได้ดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ด้าน ESG และความยั่งยืน ด้วยการให้ความรู้และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และซัพพลายเออร์ในการต่อต้านการทุจริต และการสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยการรายงานและการรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมของเดลต้าช่วยในการประเมินและส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิล รวมทั้งติดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้ได้ช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์ที่ว่า Smarter. Greener. Together.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit