มารู้จัก "ซิมาเทค" มือปราบมลพิษทางอากาศด้วยฝีมือคนไทย ใช้โซลูชั่นแก้ปัญหากำจัดฝุ่น กลิ่น และเสียงของโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โรงปูนซีเมนต์ โรงสีข้าว โรงงานอาหารสัตว์ และโรงงานเหล็ก ลดผลกระทบต่อชุมชน ช่วยเหลือลูกค้าอาการหนัก หรือ ICU มาแล้วกว่า 6,000 โครงการ ด้วยการการันตีผลลัพธ์ 99.9%
นายอรรถพันธ์ ปริวราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมาเทค จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจของ Simatek (ซิมาเทค) คือ การบำบัดมลพิษทางอากาศ ผ่านโซลูชั่นต่างๆ ด้วยการออกแบบ ติดตั้งระบบ และเครื่องกำจัดฝุ่น จัดการฝุ่น ควัน กลิ่น และเสียงตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากโรงงานส่วนใหญ่จะต้องผ่านมาตรฐานและกฎหมาย EIA หรือ EIA-Environmental Impact Assessment เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนเมื่อโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องมีระบบควบคุมมลพิษ ดังนั้นธุรกิจของ Simatek จึงมีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเราเริ่มธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทยเมื่อปี 2534 แต่ดั้งเดิมแล้วบริษัท ซิมาเทค ที่เราเทกโอเวอร์มาจากเดนมาร์กนั้นทำมาตั้งแต่ปี 2507 ปัจจุบันซิมาเทคได้ร่วมพัฒนาโครงการบำบัดมลพิษทางอากาศไปแล้วกว่า 6,000 โปรเจกต์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโรงปูนซีเมนต์ โรงสีข้าว โรงงานอาหารสัตว์ และโรงงานเหล็กโดยเฉพาะกลุ่มโรงงานอาหารสัตว์ หรือโรงงานที่เกี่ยวข้องกับปศุสัตว์ที่มีทั้งฝุ่น มีทั้งกลิ่น และตัวโปรดักส์ หรือผลิตภัณฑ์ โดยโรงงานอาหารสัตว์ที่เราดูแลเมืองไทยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% เราถือเป็นเจ้าตลาดที่ลูกค้ารู้จักและให้ความมั่นใจ
"ลูกค้าแต่ละรายจะปัญหาไม่เหมือนกัน ซึ่งเราต้องไปดูหน้างานเพื่อวางแผนออกแบบ หรือ Custom เครื่องจักร พร้อมกับหาโซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะกระบวนการต่างๆ การผลิต และปัญหาของลูกค้าจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางเจ้าอาจจะโดนปัญหาเรื่องควัน ส่วนอีกเจ้าโดนปัญหาเรื่องกลิ่นการ แก้ปัญหาก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งลูกค้าในเมืองไทยส่วนใหญ่เราจะรับลูกค้า ICU หรือลูกค้าหนักๆ เราการันตี 99.9% ลูกค้าส่วนใหญ่ของซิมาเทคจะเป็นลูกค้าที่เข้าใจระบบการทำงานของเรา ซึ่งหากลูกค้าถูกร้องเรียนเราก็จะรีบเข้าไปช่วยเหลือทันที" สำหรับ Know-how หรือ ความรู้ต่างๆ จากเดนมาร์กที่เทคโอเวอร์มานั้นเราได้นำมาพัฒนาต่อยอดมาเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล หรือ Database โดยเฉพาะการกำจัดกลิ่น หรือฝุ่นที่มีความเฉพาะตัวในประเทศไทยแน่นอนว่า know-how ในต่างประเทศอาจจะไม่มี เช่น การกำจัดกลิ่นให้กับโรงงานผลิตน้ำปลาร้า โรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ต้องใช้มันเส้น ซึ่งมีวิธีกำจัดของเสียไม่เหมือนกัน นายอรรถพันธ์ ยกตัวอย่างเช่นว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งหนึ่งถูกชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะวัดร้องเรียนปัญหาเรื่องกลิ่น ควัน และฝุ่น พร้อมกับขีดเส้นตายว่าจะต้องแก้ไขให้ได้ภายใน 15 วัน ทางเจ้าของโรงงานดังกล่าวก็ติดต่อบริษัทมา ซึ่งเราใช้เวลาประมาณ 14 วันก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทำให้โรงงาน วัด และชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขนอกจากนี้ซิมาเทคยังหาโซลูชั่นให้กับลูกค้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าอาจไม่เห็น เช่น มีโรงงานผลิตกาแฟของบริษัทแห่งหนึ่ง มีกลิ่นกาแฟออกมาบ้าง ซึ่งก็ส่งกลิ่นหอมดี แต่ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นต้องได้กลิ่นกาแฟทุกวันก็อาจจะไม่ไหว แม้วันที่เราเข้าไปคุยจะยังมีปัญหาร้องเรียน และโรงงานก็มองว่าไม่ใช่ปัญหา แต่เราก็บอกกับผู้บริหารของบริษัทผลิตกาแฟว่า กลิ่นกาแฟที่ล่องลอยในอากาศขณะนี้ คือ โปรดักส์ ซึ่งถ้าไม่มีกลิ่นลอยออกมาก็แปลว่า โปรดักส์คุณไม่ได้หลุดลอดออกมา
"กลิ่นของโปรดักส์มีโมเลกุลที่เล็กมากและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อมันหลุดรอดออกไปในอากาศ ถ้าสามารถเก็บโปรดักส์ที่เป็นกลิ่นกาแฟกลับเข้ามาอยู่ในขวดคุณจะขายได้มากขึ้น ซึ่งลูกค้าก็ไม่เชื่อคิดว่าน่าจะไม่มีอะไร เราก็เลยคำนวณต้นทุนต่างๆ และคิดเป็นเงินออกมาให้เห็น และเราก็ทำ back to back bank guarantee ก็คือ ให้บริษัทซื้อเครื่องจักรจากเรา โดยลูกค้าจะจ่ายเงินให้เราเป็นแบงก์การรันตี หรือเป็นเงินสดให้ก็ได้ และภายใน 18 เดือนนี้เราจะทำ bank guarantee ให้กับบริษัทอีกหนึ่งชุด สมมติว่าลูกค้าคิดว่าจ่ายเงินเราแล้วไม่มีประโยชน์ก็เอา bank guarantee ไปขึ้นเงินได้เลย แต่ ปรากฎว่า 18 เดือนถัดมาลูกค้าก็สั่งเครื่องจักรมาอีก เพราะเห็นแล้วว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า" ปัจจุบัน ซิมาเทค ได้นำ Robot Auto เข้ามาช่วยเรื่องการผลิต แต่หากเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือเราก็ยังคงใช้แรงงานที่มีฝีมือเข้ามาจัดการอยู่ ที่สำคัญเรามีบริหารจัดการที่ดีไม่ว่าจะเป็นลดการสูญเสีย เพื่อเข้ามาคุมต้นทุนต่างๆ แม้ต้นทุนของวัตถุในการผลิตชิ้นงานจะสูงขึ้นก็ตาม รวมถึงพัฒนาทักษะแรงงานให้สามารถพัฒนาตามโซลูชั่นต่างๆ ที่กำลังเข้ามาเพิ่มเติมอีกในอนาคต
นายอรรถพันธ์ กล่าวอีกว่า วันที่ 12-14 มีนาคม 2567 นี้เราจะไปร่วมงาน VICTAM Asia ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและการประชุมชั้นนำระดับโลกด้านอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ซึ่งซิมาเทคได้เข้าไปร่วมงานทุกๆ ปี เนื่องจาก VICTAM เป็นหนึ่งในองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และเราก็ร่วมงานกับทางวิคแทม เอเชีย มาตั้งแต่ปี 2545
"เราก็รู้สึกว่า 360 วันมีแต่การเดินทางไปพบลูกค้า แต่ไม่มีโอกาสได้พบกับเจ้าของกิจการเลย ส่วนใหญ่ก็จะพบกับผู้แทนของบริษัท แต่เมื่อเรามายืนหน้าบูธ เราจะพบกับเจ้าของกิจการต่างๆ เข้ามาทักทาย เข้ามาพูดคุยกับเรา ซึ่งสองปีที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสพบปะลูกค้า VIP กับ Super VIP เป็นจำนวนมาก และการออกบูธของซิมาเทคกับวิสแทมนั้นไม่ได้เป็นการแสดงสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ได้พูดคุยพบปะลูกค้าตัวจริง แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ ระหว่างกันและกันอีกด้วย"
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit