กุมภาพันธ์มีความสำคัญสำหรับผู้คนมากมายเพราะเป็นเดือนพิเศษโดยเฉพาะ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ ที่มีกลิ่นอายความสดใส ความสดชื่นความหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะคนในวัยหนุ่มสาวที่มักมอบให้กับคนพิเศษ และสำหรับนักเรียนในวัยเรียนแล้วกุมภาพันธ์ก็เป็นเดือนพิเศษเช่นเดียวกัน เพราะเป็นเดือนสุดท้ายของปีการศึกษาที่เตรียมตัวสอบปลายภาคเพื่อขึ้นชั้นเรียนใหม่ในปีการศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตามมีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่อาจจะรู้สึกห่อเหี่ยวกับความยากไร้ในชีวิตของตนเอง และอยากขอโอกาสเพื่อให้ตัวเองได้เรียนหนังสือเพื่อจะได้มีรอยยิ้มมีอนาคตที่สดใสบ้าง เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสเรียนในปีการศึกษาต่อไปไหม หรือหากได้เรียนต่อแล้วจะพบอุปสรรคบ้างหรือไม่
ในเดือนพิเศษเช่นนี้ มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ชวนผู้สนใจร่วมเปลี่ยนแปลงโอกาสเติมเต็มความหวัง แต่งแต้มรอยยิ้มให้นักเรียนยากไร้ให้ได้มีอนาคตที่ดีด้วยการร่วมบริจาคทุนการศึกษาเพื่อมอบให้นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกและตรวจสอบคุณสมบัติและรอรับทุนการศึกษาในปีการศึกษา 2567 จากนักเรียนจากกว่า 1,200 โรงเรียนทั่วประเทศ ที่มูลนิธิ EDF จะปิดรับทุนให้นักเรียนที่ขอรับบริจาคทุนการศึกษาในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 อีกอย่างน้อย 5,061 คน ทั้งทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนพิการเรียนร่วมในโรงเรียนปรกติ ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมํธยมศึกษาตอนปลาย / อาชีวศึกษา และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนกำพร้าใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
แม้ความพิการทางร่างกายจากกำเนิดที่สามารถใช้มือขวาในการเขียนหนังสือ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้เพียงข้างเดียว แต่ก็พยายามใช้มือซ้ายที่ไม่มีนิ้วที่สามารถใช้งานได้ประคองหากต้องทำกิจกรรมที่จำเป็นต้องใช้มือทั้งสองข้าง สำหรับบางคนอาจจะมองว่าเป็นอุปสรรคแต่สำหรับเกษ หรือเด็กหญิงเกษมณี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในจังหวัดอุบลราชธานี ที่ขอรับทุนการศึกษาเด็กพิการเรียนร่วมในโรงเรียนปรกติในปีการศึกษา 2567 มองว่าความพิการของตนเองไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่ประการใด
เกษเล่าว่า "ที่บ้านหนู พวกเราอาศัยอยู่กัน 5 คน มีปู่ ย่า น้องสาว และหลาน แต่ละปีหนูเจอพ่อแม่แค่ปีละครั้งเพราะท่านไปทำงานที่ต่างจังหวัดเพื่อส่งเงินมาดูแลหนูและน้อง เวลาไปโรงเรียนหนูจะไปกับญาติที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันค่ะ หนูพยายามตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อจะได้มีความรู้เยอะ ๆ แม้ว่าหนูจะอ่านหนังสือไม่ค่อยคล่องและต้องคอยสะกดทีละคำ หนูก็ไม่ท้อค่ะ หนูร่วมทำกิจกรรมในโรงเรียนกับเพื่อน ๆ ตลอด คุณครูและเพื่อนดีกับหนูมากค่ะ คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจเสมอ หนูอยากไปโรงเรียนทุกวันเลยค่ะ ส่วนเวลาอยู่ที่บ้านหนูก็ช่วยปู่ย่าทำงานบ้านที่ตัวเองทำได้ รวมทั้งช่วยเลี้ยงน้องและหลานอีกคนของปู่ย่าด้วยค่ะ หยูอยากได้ทุนการศึกษาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่และปู่ย่า และมีเงินค่าขนมไปโรงเรียนบ้างค่ะ"
ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคทุนการศึกษากับมูลนิธิ EDF และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุนการศึกษา หรือการร่วมทำกิจกรรมเกี่ยวกับโครงการซีเอสอาร์สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิ อีเมล [email protected] หรือ LINE @edfthai โทรศัพท์ 02 579 9209-11 (วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น.)
สำหรับมูลนิธิ EDF ดำเนินงานช่วยเหลือนักเรียนที่ด้อยโอกาสให้ได้รับการศึกษา รวมทั้งดำเนินโครงการด้านซีเอสอาร์ร่วมกับพันธมิตรองค์กรต่าง ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 โดยเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255 ของประเทศไทย
การทำงานของมูลนิธิ EDF ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนและได้รับรางวัล อาทิ รางวัลยอดเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศไทย ประเภทองค์กรขนาดใหญ่จากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย และ เดอะ รีซอร์ส อัลลิอันซ์ รางวัลประกาศนียบัตรองค์กรสาธารณกุศลระดับ 5 ดาว จากการดำเนินงานและบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพทางการเงิน และมีความโปร่งใส จากสมาคมกิฟวิ่ง แบค และประกาศนียบัตรรับรอง CAF International Vetted Organization จาก CAF International ที่มอบให้องค์กรสาธารณกุศลทั่วโลกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินงานครอบคลุมหลักธรรมาภิบาล จดทะเบียนถูกต้อง รายงานการเงินประจำปีมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งเงินบริจาคและเงินสนับสนุนที่ส่งมอบให้มูลนิธิได้รับการนำไปใช้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณกุศลอย่างแท้จริง เป็นต้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit