Esri Thailand เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชัน ตอบรับเทรนด์ ESG มุ่งหนุนกิจการ รัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน เติบโตยั่งยืน

22 Feb 2024

Esri ผู้นำด้าน Location Intelligence การวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศในมุมมองใหม่ ด้วยความเชี่ยวชาญในการพัฒนา ArcGIS ซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก เปิดกลยุทธ์ปี 67 มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันเพื่อตอบรับเทรนด์ ESG ด้วยการนำเทคโนโลยี GIS เข้าไปช่วยในด้าน ESG ให้กับธุรกิจ อาทิ ส่งเสริมสมาร์ทซิตี้ การจัดการภัยพิบัติ การบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตรอย่างคุ้มค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมด้านพลังงานทดแทนในการวิเคราะห์พื้นที่ในการติดตั้งโซล่าเซลล์ เป็นต้น หวังช่วยกิจการรัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งเอกชน ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย สังคม และประเทศ

Esri Thailand เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชัน ตอบรับเทรนด์ ESG มุ่งหนุนกิจการ รัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน เติบโตยั่งยืน

ดร.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ประธาน บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขับเคลื่อนบริษัทฯ ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันให้สอดรับเทรนด์ ESG มากขึ้น โดยนำเทคโนโลยี GIS เข้าไปช่วยในด้าน ESG ให้กับธุรกิจ ผ่าน 4 เทคโนโลยีหรือโซลูชันที่ตอบโจทย์เทรนด์ ได้แก่ 1. แพลตฟอร์มส่งเสริมพัฒนาให้เป็นเมืองที่มีความยั่งยืน (Geocity Data Platform) 2. โซลูชันที่ช่วยในการรับมือและแก้ปัญหาภัยพิบัติ 3. โซลูชันด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยี GIS เพื่อช่วยพัฒนาการผลิตสินค้าการเกษตรอย่างคุ้มค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม สนับสนุนกฎหมายการนำเข้าส่งออกของกลุ่มประเทศยุโรป และ 4. พลังงานทดแทน (Renewable Energy) โดย Esri Thailand มีเครื่องมือวิเคราะห์หาพื้นที่ที่เหมาะสมในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ พื้นที่รับแดด และปัจจัยต่าง ๆ ในการติดตั้งหรือลงทุนโซล่าเซลล์ที่เหมาะสมที่สุด

ดร.ธนพร กล่าวเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยี GIS ข้างต้น ได้เข้าไปมีส่วนช่วยในด้าน ESG ตามกรอบแนวคิดในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้านหลัก ๆ ดังนี้

  1. ด้านสมาร์ทซิตี้ ได้พัฒนา Geo City Data Platform เพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้เป็นเมืองที่มีความยั่งยืน ช่วยบูรณาการฐานข้อมูลเมืองสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะที่ครอบคลุมข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยแพลตฟอร์มทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมข้อมูลกายภาพและเชื่อมโยงข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดภายในเมือง แล้วนำเสนอในรูปแบบทั้ง 2 มิติ และ 3 มิติ ที่ไม่เพียงแค่มุม Visualization เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการวิเคราะห์ และเห็นความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของข้อมูล ช่วยจำลองสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นภายในเมือง เพื่อการติดตามและคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคต นำไปสู่การวางแผนรับมือกับปัญหาเมืองได้อย่างตรงจุด โดยเมืองสามารถดึงเอาข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เตรียมความพร้อม และรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที นอกจากนี้ ยังเป็นสื่อกลางระหว่างเมืองและประชาชนในการรับเรื่องร้องเรียน และแก้ปัญหาในพื้นที่ได้ทันที เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดียิ่งขึ้น
  2. ด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ GIS เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในด้าน Climate Change ทั่วโลก โดย Esri เคยได้รับรางวัลการันตี The Forrester New Wave(TM):Climate Risk Analytics, 2023 จากบริษัทวิจัย Forrester ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ หรือ GIS เข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้านสภาพอากาศ รวมถึง Esri ยังมีโซลูชันที่ช่วยแก้ปัญหา Climate Crisis ได้อย่างรอบด้าน ตั้งแต่การช่วยประเมินผลกระทบ การวิเคราะห์และจำลองสถานการณ์ต่างๆ เพื่อชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงหรือจุดเสี่ยงในอนาคต ซึ่งเทคโนโลยี GIS เองสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถของการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ได้มากขึ้น รวมถึงการช่วยหาโซลูชันที่เป็นแนวทางสู่การบริหารจัดการสถานการณ์และทรัพยากรให้เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ Esri Thailand ได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลด้านสภาพแวดล้อม (Urban Hazard Studio) ที่ได้พัฒนาร่วมกับ FutureTales LAB by MQDC ด้วยการใช้เทคโนโลยี GIS เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม จากการวิเคราะห์สถานการณ์ฝนร้อยปี เพื่อให้ภาครัฐและภาคเอกชนสามารถนำข้อมูลไปวางแผนรับมือ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือเพื่อการแก้ปัญหาของเมืองและสิ่งแวดล้อม โดยในอนาคตจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มรับมือภัยพิบัติอื่น ๆ เช่น สึนามิ และฝุ่น เป็นต้น
  3. ด้านเกษตรกรรม ปัจจุบันเทรนด์โลกให้ความสนใจเรื่องแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เห็นได้จากที่หลายประเทศเริ่มมีการประกาศใช้ข้อกฏหมายเพื่อส่งเสริมและผลักดันให้ดำเนินการตามแนวทาง โดยเฉพาะในแถบยุโรปเองก็มีกฏหมายด้านนี้บังคับใช้ และมีแนวโน้มไปยังหลายประเทศทั่วโลก เช่น กฎหมาย EUDR (EU Deforestation Regulation) ซึ่งการใช้เทคโนโลยี GIS สามารถพัฒนาการผลิตสินค้าการเกษตรให้มีคุณภาพและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ให้สอดรับกฎหมายการนำเข้า-ส่งออกของกลุ่มประเทศยุโรป โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาวิเคราะห์ดูการเปลี่ยนแปลงของป่าจากภาพถ่ายดาวเทียม และการติดตามพืชที่เพาะปลูกว่าไม่ได้มาจากการบุกรุกทำลายป่า ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถช่วยการันตีสินค้าว่าได้มาจากพื้นที่ที่ไม่ทำลายธรรมชาติ และสามารถติดตามข้อมูลสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อช่วยสนับสนุนมาตรฐานการผลิตอย่างยั่งยืนแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ
  4. ด้านพลังงานทดแทน โซลาร์เซลล์เป็นแหล่งพลังงานที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับเมืองร้อนอย่างประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เทคโนโลยี GIS จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถวิเคราะห์หาพื้นที่เหมาะสมในการติดตั้งโซล่าเซลล์ และสามารถคาดการณ์ปริมาณพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้เพียงพอกับการใช้งาน สามารถประเมินระยะเวลาการคืนทุนของการติดตั้งโซลาเซลล์ และยังสามารถมอนิเตอร์เพื่อติดตามการทำงานของอุปกรณ์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงเพื่อวางแผนการซ่อมบำรุงรักษา

อย่างไรก็ดี Esri ในฐานะผู้ให้บริการด้าน Location Intelligence มุ่งมั่นบริหารธุรกิจภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยตั้งใจนำเทคโนโลยี GIS มาช่วยในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ที่ล้วนมีผลกระทบต่อความยั่งยืนในอนาคต ตลอดจนการให้ความร่วมมือและสนับสนุนภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาความเป็นอยู่ในด้านต่าง ๆ สู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ดร.ธนพร กล่าวทิ้งท้าย

HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit