ยาโยอิ ต้นตำรับการเสิร์ฟอาหารรูปแบบเซต "เทโชกุ" จากประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 138 ปี ฉลองครบรอบ 18 ปีในประเทศไทย ปรับภาพลักษณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ใหม่ทั้งร้าน ชูกลยุทธ์ "ใช้เซตอาหารญี่ปุ่นเป็นสื่อกลางสร้างความผูกพัน ตอบโจทย์ทุกความชอบของลูกค้าทุกคนในทุกช่วงเวลา" (Japanese Food Intimacy) เปิดตัวโลโก้ใหม่ล่าสุด การผสมผสานระหว่างลายเส้นพู่กันญี่ปุ่นตัว "Y" ไอคอนิกกับตัวอักษรร่วมสมัย ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Japanese Pop - Culture โดยยังคงเลือกใช้สีชมพูภาพจำอันเป็นเอกลักษณ์ บวกกับสีเหลืองที่เพิ่มเข้ามาสร้างความสดใส สนุกสนาน เข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น และเพิ่มลูกเล่นด้วยการนำสัญลักษณ์ที่สื่อถึงเทโชกุมาใช้แทนจุดบนตัวอักษร 'i' เพื่อสะท้อนความตั้งใจที่ต้องการจะสร้างประสบการณ์ผ่านเซตอาหารญี่ปุ่นให้โดนใจกว่าที่เคย มาพร้อม 2 เมนูซิกเนเจอร์ท้าให้ลอง "ยาโยอิ เทโชกุ บูตะ ยากินิขุ" และ "ยาโยอิ เทโชกุ แซลมอน ฮานะมากิ" ที่สร้างสรรค์โดยฝีมือเชฟผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น กับรสชาติถูกปาก ราคาถูกใจสไตล์ยาโยอิ ตอกย้ำความเป็น "ราชาแห่งเทโชกุ" ตัวจริง เสียงจริง
นายฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2549 (กว่า 18 ปี) เราซื้อแฟรนไชส์ยาโยอิจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเปิดสาขาแรกในประเทศไทย พร้อมแนะนำให้คนไทยได้รู้จักกับ 'เทโชกุ' (Teishoku) วัฒนธรรมการรับประทานอาหารในรูปแบบเซตดั้งเดิมที่ยาโยอิ ประเทศญี่ปุ่นได้สืบทอดมายาวนานกว่า 138 ปี (ตั้งแต่ยุคสมัยเมจิ ค.ศ. 1886) ซึ่งมีจุดเด่นในการช่วยปรับสมดุลร่างกายและคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ ผ่านการจัดวางองค์ประกอบของอาหารแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็น ข้าวญี่ปุ่น อาหารจานหลัก (เนื้อสัตว์) อาหารจานรอง (ผัก) ซุป และเครื่องเคียง เสิร์ฟรวมในถาดเดียวกัน ทว่าแนวคิดดังกล่าวถูกนำมาต่อยอดใส่ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ทันสมัยตามแบบฉบับครัวญี่ปุ่น ในการคิดค้นและนำเสนอเมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ ผสานกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีความชอบแตกต่างกัน เพื่อทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงอาหารญี่ปุ่นได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งในร้านอาหารโปรดของคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ทุกเวลา เมื่อนึกถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ราคาคุ้มค่า อร่อยครบ อิ่มคุ้มจบในร้านเดียว ต้อง 'ยาโยอิ' เท่านั้น"
ในโอกาสที่ยาโยอิฉลองครบรอบ 18 ปีในประเทศไทย เราขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด จวบจนปัจจุบันมีทั้งสิ้นกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ กว่า 360 สาขาในประเทศญี่ปุ่น และมีการขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และอเมริกา เพื่อต่อยอดความสำเร็จและศักยภาพความเป็นผู้นำเชนร้านอาหารญี่ปุ่น ปีนี้เราจึงอยากเชิญชวนลูกค้าทุกท่านให้มาลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่และบริการที่น่าประทับใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมถึงติดตามกิจกรรมทางการตลาดและโปรโมชันพิเศษที่จะทยอยปล่อยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของยาโยอิไปด้วยกัน ผ่านแนวคิดและ 3 หัวใจสำคัญ (Core Values) ได้แก่
และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ ยาโยอิยังคงนำเสนอเมนูสุดฮิตที่ทุกคนคุ้นเคย เมนูซิกเนเจอร์ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี นำเข้าจากต่างประเทศ และสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ทั้ง 'ยาโยอิ เทโชกุ บูตะ ยากินิขุ' หมูย่างนุ่มๆ ชิ้นพอดีคำ ผัดซอสยากินิขุสูตรพิเศษในกระทะร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่น เครื่องเคียงจัดเต็ม และ 'ยาโยอิ เทโชกุ แซลมอน ฮานะมากิ' เซตแซลมอนชิ้นเบิ้มย่างกระทะร้อน ราดซอสสูตรลับแบบฉ่ำๆ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงสุดพรีเมียม รวมถึงเมนูในตำนานที่ขายดีอย่าง 'เซตหมูย่างกระทะร้อน' หรือ 'ราเม็งแชมป์เปี้ยน' และเมนูใหม่อีกเพียบครบทุกหมวด ไม่ว่าจะเป็น ดับเบิ้ล บูตะ ชีสซี่ คัตสึ, สไปซี่ แซลมอนโรล ลาวา, ยูซุ เรเมน, เมนูฟิวชัน เทมปุระกุ้ง ต้มยำ ราเม็ง และอีกหลากหลายเมนูแสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟที่ยาโยอิ กว่า 200 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2567 เป็นต้นไป
"นับจากเมื่อถือกำเนิดในญี่ปุ่น 138 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ ยาโยอิไม่เคยหยุดนิ่งและพัฒนาสิ่งใหม่อยู่เสมอ พร้อมตอบรับทุกอินไซต์และเทรนด์ความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทุกเซตเมนูที่เราเสิร์ฟล้วนผ่านการคิดค้นและพัฒนาบนพื้นฐานความเชี่ยวชาญของเชฟทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทย เพื่อให้ลูกค้าคนไทยทุกคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นได้รับประสบการณ์เฉกเช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่น และคิดถึงยาโยอิเป็นร้านแรกในใจ เพราะมั่นใจได้ว่าที่ 'ยาโยอิ' เรามีสิ่งที่ใช่สำหรับคุณเสมอ" นายฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมและโปรโมชันต่างๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/YayoiRestaurantThailand หรือเว็บไซต์ https://yayoirestaurants.com
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit