ผศ.ดร.จัตตุฤทธิ์ ทองปรอน รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา กล่าวว่า มทร.ล้านนา ให้ความสำคัญในการประยุกต์การใช้ปัญญาประดิษฐ์ ( AI) กับการเรียนการสอน และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาให้กับนักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพราะในปัจจุบันและอนาคตทั้งการเรียนการสอน การทำงานย่อมต้องใช้ AI เรียกได้ว่าคนกับ AI ต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้น นักศึกษาและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยต้องมีทักษะ AI และทักษะ Soft Skills ซึ่งทักษะเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิต และการทำงาน
"ทั้งนี้มหาวิทยาลัยได้มีการเติมเต็มทักษะทางด้าน AI ให้แก่นักศึกษา เพราะนั่นเป็นเสมือนทักษะ Soft Skill ใหม่ในยุคดิจิทัลที่เด็กต้องมีติดตัว และเป็นโอกาสให้แก่เด็ก เพราะทุกอาชีพต้องมีความเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยี กับ AI โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ทาง มทร.ล้านนา ได้ร่วมกับสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย จัดกิจกรรมบ่มเพาะด้าน AI พัฒนาทักษะนักวิจัย วิศวกร นวัตกร และนักเทคโนโลยี ของมหาวิทยาลัยทั้ง 6 พื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมบุคลากรของมหาวิทยาลัย อันนำไปสู่การพัฒนานักศึกษา"รักษาราชการแทนอธิการบดี มทร.ล้านนา กล่าวและว่า ในปีการศึกษา 2567 นี้ จะมีการสอดแทรกทักษะ AI เข้าไปในหลักสูตรต่างๆ รวมถึง มทร.ล้านนา ได้มีการจัดทำ card to you ที่จะเปิดให้นักศึกษา ศิษย์เก่า อาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยสามารถเข้ามา Up-Skills และ Re-Skills และสามารถเก็บสะสมหน่วยกิต เป็นเหมือนคอร์สหลักสูตรระยะสั้น ซึ่งคาดว่าจะเปิดระบบพัฒนาทักษะที่นักศึกษารุ่นใหม่ ศิษย์เก่า อาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยต้องการในเดือน มิ.ย.2567 นี้
ผศ.ดร.จัตตุฤทธิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในแต่ละหลักสูตร นักศึกษาสามารถเลือกวิชาเสรี 9 หน่วยกิตได้ด้วยตนเอง ซึ่งนักศึกษาอาจเลือกเรียนวิชาง่ายๆ เพื่อให้จบการศึกษา หรือเลือกวิชาที่จะนำไปปรับใช้กับตนเองในสาขา คณะ หรือทักษะใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์โลกของการทำงาน ทางมหาวิทยาลัยได้มีการพัฒนาวิชาเลือกเสรีให้มีความหลากหลาย ให้นักศึกษาได้เลือกเรียน และอาจจะเพิ่มชุดรายวิชาทักษะสมัยใหม่ที่เด็กต้องเรียน อาจจะเป็นการเรียนระยะสั้นๆ ค่อยๆ เก็บชั่วโมงเรียน อาทิ การใช้ Chat GPT การรู้จักกลโกงทางโลกออนไลน์ การเรียนรู้ AI สอนเรื่องการเสียภาษีอย่างถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งรายวิชาเหล่านี้ จะกำหนดให้เด็กเลือกเรียน เพื่อที่พวกเขาจะได้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และมีความพร้อมในการทำงาน.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit