เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวหน้าของเราจะค่อยๆ เสื่อมสภาพ และทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ร่องลึก หน้าตอบ ร่องแก้ม หรือริ้วรอยใต้ตา จนทำให้ผิวหน้าดูแก่กว่าวัย แต่เราสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก ด้วยการ "ฉีดฟิลเลอร์" เข้าไปเติมเต็มในชั้นผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพและมีการยุบตัวลงเมื่อเรามีอายุมากขึ้น ให้ผิวหน้ากลับมาเปล่งปลั่ง เรียบเนียน เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
และอีกหนึ่งคุณสมบัติของฟิลเลอร์ นอกจากจะช่วยรักษาปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว หนุ่มๆ สาวๆ ในปัจจุบันยังนิยมฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยปรับแก้ไขรูปหน้าให้สวยงาม ดูเล็กและมีมิติ เช่น ปรับคางให้ดูยาวขึ้นเพื่อแก้ปัญหาคางตัด หรือใครอยากมีรูปปากกระจับ ปากสายฝอ หรือทรงอื่นๆ ก็สามารถทำให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติได้ตามที่ต้องการ
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม?
ฟิลเลอร์ชนิดที่ปลอดภัยจริงๆ ต้องเรียกว่าฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. และเป็นฟิลเลอร์ชนิด HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายของคนเรามี สาร Hyaluronic Acid อยู่ในผิวหนัง เมื่อเรามีอายุมากขึ้น จำนวนคอลลาเจนก็ลดน้อยลง ผิวหนังชั้น SMAS ก็เปลี่ยนไป และ Retaining ligaments หรือเส้นเอ็นยึดผิวต่าง ๆ ก็หย่อนคล้อยลง เราจึงสร้างสิ่งอื่นขึ้นมาทดแทน และสิ่งนั้นคือฟิลเลอร์นั่นเอง
ฟิลเลอร์แบรนด์น้องใหม่ "Swiss Fair Filler" นำเข้าจาก Switzerland
ซึ่งฟิลเลอร์ที่อยากแนะนำในวันนี้ คือ Swiss Fair Filler เป็นฟิลเลอร์มาตรฐานยุโรป เป็นแบรนด์ล่าสุดที่เพิ่งจะเข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทย โดย Swiss Fair Filler มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 12 ปี ในการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายฟิลเลอร์ HA ด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิก (Swiss Fair Filler: Hyaluronic Acid) ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 13485 ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
สร้างความแตกต่างด้วยเทคโนโลยีที่เป็นที่สุดในด้านความงาม
ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมโยงข้ามกรดไฮยาลูโรนิคของ Swiss Fair Filler(R) ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรจากสวิสล่าสุด เป็นการเชื่อมโยงโมเลกุล (Crosslinked) ด้วยโครงสร้างเป็นตาข่าย 3 มิติ ลดปริมาณ BDDE ที่เป็นสารกระตุ้นการอักเสบน้อยลง แต่ยังคงรักษาโครงสร้างโมเลกุลของกรดไฮยาลูโรนิกตามธรรมชาติในระดับมากที่สุด ทำให้เจล Swiss Fair Filler(R) HA มีโมเลกุลเล็กและมีความละเอียดสูง มีอัตราส่วนการยึดเกาะและความยืดหยุ่นที่สมดุล ซึ่งไม่เพียงทำให้กรดไฮยาลูโรนิกเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ยังให้แรงพยุงที่ดีและคงประสิทธิภาพการจัดรูปหน้าได้ดีกว่า และสามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 12 เดือน
จุดเด่นของ Swiss Fair Filler(R) ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงเลือกใช้
ฟีลเลอร์ Swiss Fair Filler(R) มี่กี่รุ่น และแต่ละรุ่นมีจุดเด่นอะไรบ้าง!!
ถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์ Swiss Fair Filler(R) ยี่ห้อเดียวกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีและขั้นตอนในการผลิตที่แตกต่างกันจึงทำให้คุณสมบัติทางกายภาพที่หลากหลาย จึงต้องเลือกใช้ให้ถูกตามความเหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุด โดยฟิลเลอร์ Swiss Fair Filler(R) มีทั้งหมด 4 รุ่น
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มเหมาะสำหรับผู้ที่อยากแก้ปัญหาโครงหน้าและผิว นอกจากจะช่วยชะลอวัย ยกกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง ขณะที่บางท่านนิยมฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมโหงวเฮ้งให้ดีอีกด้วย ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลทันทีหลังฉีด ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผลเป็น ไม่ต้องพักฟื้น จึงนับว่าฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัย และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. จะมีความปลอดภัย ให้ผลได้แม่นยำ สวยเป็นธรรมชาติกว่าการเติมเต็มด้วยวิธีอื่นๆ และไม่ทำให้เกิดอาการแพ้และไม่มีปัญหาเรื่องของสารตกค้างในร่างกาย สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์สามารถเติมได้เรื่อยๆ ปรับแต่งได้ หรือถ้าไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกได้
ข้อควรระวังของการฉีดฟิลเลอร์
สิ่งหนึ่งที่พึงต้องระวังไว้เสมอ คือ การเลือกใช้ฟิลเลอร์ ต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. และเป็นฟิลเลอร์ชนิด HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น โดยฟิลเลอร์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร ซึ่งแต่ละแบรนด์มีอายุความคงทนแตกต่างกัน ตั้งแต่ 6 - 18 เดือน ปริมาณที่ฉีดในแต่ละจุดควรมีปริมาณที่เหมาะสม และประการสำคัญที่สุด คือ ต้องฉีดกับแพทย์ที่เป็นผู้ชำนาญการ มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพราะหากฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ไม่ผ่าน อย. ฉีดแล้วไม่สลายตัว แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น!!
การฉีดฟิลเลอร์จึงนับว่าช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด สะดวก และให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมมากที่สุด ซึ่งฟิลเลอร์ภายใต้แบรนด์ Swiss Fair Filler(R) ได้รับรองมาตรฐานต่างๆ และการยอมรับจากลูกค้าตัวจริงในอีก 70 ประเทศทั่วโลก จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มั่นใจในความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน หากสนใจ สามารถสอบถามที่คลินิกเสริมความงามชั้นนำได้เลยค่ะ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit