เบเยอร์ ประกาศความสำเร็จในการครองตำแหน่งผู้นำตลาดสี
บ้านเย็นต่อเนื่องนาน 17 ปี สะท้อนความไว้วางใจและความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ ชูความเป็นเบอร์หนึ่งสี
นวัตกรรมบ้านเย็น
ตัวจริงรายแรกที่ใช้เทคโนโลยีเซรามิก คูลลิ่ง (Ceramic Cooling Technology) ที่สุดของเทคโนโลยีบ้านเย็นเบเยอร์ ผู้นำสีนวัตกรรม รักษ์โลก รักคุณ ดำเนินธุรกิจกว่า 60 ปี ภายใต้แนวคิด Eco-Wellness Innovation ได้ปฏิวัติวงการสีทาอาคาร นำ เทคโนโลยีเซรามิก คูลลิ่ง (Ceramic Cooling Technology) ที่ทำหน้าที่เสมือนฉนวนกันความร้อนพร้อมสะท้อนความร้อน ไม่ต้องรอให้ร้อนแล้วค่อยคาย การันตีด้วยยอดขาย อันดับ 1 สีทาบ้านเย็นตัวจริง ให้ "สีเบเยอร์คูล" เป็นรายแรกและรายเดียวในไทยที่ได้รางวัลจากสถาบันนวัตกรรมแห่งชาติดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบเยอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ความสำเร็จของเบเยอร์เกิดจากการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น โดยที่ผ่านมาปัญหาบ้านร้อนคือสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาโดยตลอด บวกกับสถานการณ์โลกร้อนในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทุกชีวิต จากปัญหาดังกล่าว เบเยอร์ จึงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาเป็นตัวช่วยแก้วิกฤตระดับโลกนี้ พร้อมนำเทคโนโลยีเซรามิก คูลลิ่ง ที่สุดแห่งเทคโนโลยีสีบ้านเย็น มาใช้ในผลิตภัณฑ์สีเบเยอร์คูล ที่ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพเทคโนโลยีเซรามิก คูลลิ่ง อีกก้าวของนวัตกรรมเพื่อบ้านที่เย็นสบาย เบเยอร์ภาคภูมิใจในนวัตกรรมระดับโลกที่องค์การนาซ่าเลือกใช้เพื่อเคลือบกันร้อนกระสวยอวกาศ พร้อมได้พัฒนาต่อยอดไปยังวงการยานยนต์ที่นำไปใช้กันร้อนในฟิล์มเซรามิกติด กระจกรถยนต์ รวมถึงเบรกรถฟอร์มูล่าวัน นำไปสู่นวัตกรรมสีบ้านเย็น "เบเยอร์คูล" ที่ช่วยสะท้อนความร้อนและลดการดูดซับความร้อนจากแสงแดดให้กับบ้าน ทำให้บ้านเย็นขึ้นได้ทั้งหลัง เพราะนอกจากผลิตภัณฑ์สีทาบ้าน ทางเบเยอร์ยังมีสีทาหลังคา สีทาฝ้าเพดาน สีทากันซึมดาดฟ้า สีทาเหล็กรวมถึงสีรองพื้น ที่ผสมผสานนวัตกรรมกันร้อนนี้ ซึ่งถ้าใช้งานทั้งระบบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันความร้อน ผ่านการสะท้อนความร้อนสูงสุด 97.2% ลดอุณหภูมิลงได้สูงสุด 6 องศาฯ ช่วยประหยัดค่าไฟลงกว่า 32%เบเยอร์ ผู้ผลิตสีรายเดียวในประเทศไทยและรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำนวัตกรรมการผลิตสีระบบ AVID (Automatic Vacuum Inline Dispersion) มาใช้ ด้วยระบบการผลิตในรูปแบบอินไลน์อัตโนมัติระบบสุญญากาศ
ทำให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยลดการเกิดภาวะโลกร้อน การันตีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยฉลากลดโลกร้อนรายแรกที่ลดคาร์บอนมากที่สุดกว่า 22% ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้สีเบเยอร์คูล ช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาแล้วกว่า 250,000,000 กิโลกรัมคาร์บอน เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ชดเชยมากกว่า 4,500,000 ต้น นอกจากนี้ยังผสานเทคโนโลยีไดมอนด์บอนด์ (Diamond Bond) ช่วยปกป้องบ้านจากแดด ฝน ทนทานทุกสภาวะนาน 17 ปี สูงสุดในสีทาบ้าน โดยมีสินค้าพิเศษ "เบเยอร์คูล ไดมอนด์ อัลตรา ชิลด์ 17" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สีทาอาคารระดับสูงสุดในขณะนี้เพื่อตอบโจทย์ทั้งสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป เพื่อประหยัดการใช้จ่ายค่าไฟฟ้า และเพื่อผู้บริโภคที่มีความต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการดูแลโลกของเรา เบเยอร์เชื่อมั่นว่า เราจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และครองใจผู้บริโภคได้ด้วยคุณสมบัติของ 'เบเยอร์คูล' ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน จนสามารถครองใจลูกค้าได้อย่างยาวนาน โดยเบเยอร์พร้อมเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกครอบครัวต่อไป
ดร.วรวัฒน์ กล่าวปิดท้าย