บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เชียร์ "ซื้อ" หุ้น บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL)ให้ราคาเป้าหมาย 5 บาท หลังธุรกิจมีพัฒนาการตามแผน และผลประกอบการกลับเข้าสู่ภาวะขาขึ้นจากการทยอยรับรู้รายได้โครงการพลังงานทดแทนใหม่จะทยอย COD ในปี 2569E-2573E หนุนกำลังการผลิตจากปี 2566 ที่ 0.6GW สู่ระดับ 1.5 GW หนุนราคาหุ้นมีโอกาสกลับไป Outperform ฟาก บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรปกติไตรมาส 2/2567 เติบโตต่อเนื่อง ตามปัจจัยฤดูกาลโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และความเร็วลมที่ยังทรงตัวใกล้เคียงไตรมาส 1/2567 ส่วนแผน PDP ฉบับใหม่จะมีการเปิด Public Hearing ช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าพร้อมประกาศใช้อย่างเป็นทางการช่วงครึ่งหลังปี 2567 หนุนการเติบโตธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจ EPC จึง แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเหมาะสม ปี 2567 ที่ 4.20 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อ หุ้นบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) และให้ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท อิง SOTP โดยยังมีมุมมองเป็นกลาง หลังธุรกิจมีพัฒนาการตามแผนและยังไม่มีประเด็นใหม่ สรุปดังนี้ 1) โครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในไทยรอบล่าสุดที่บริษัทได้มาจะเริ่ม COD ในปี 2569E (3 โครงการ 177 MW) ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อรอก่อสร้างต่อไป 2) ธุรกิจ EPC ปัจจุบันมี Backlog ราว 6 พันล้านบาท ตั้งเป้าปี 2567E ประมูลงานเพิ่มราว 4 พันล้านบาท โดยมีงานโครงการใหญ่จากภาครัฐมูลค่ารวมกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท เป็น potential projects 3) ธุรกิจ Trading มี outlook ที่ดีจากการลงทุนเพิ่มเติมของหน่วยงานรัฐฯ และจากโครงการพลังงานทดแทนในไทยที่จะเริ่มทยอย COD ในปี2567E-73E (เฟสแรก 5.2GW และ 3.6GW เฟสสอง ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในต้นปี 2568E)
ด้านราคาหุ้น underperform SET ราว -15% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาคาดยังไร้ key catalyst ระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยคาดราคาหุ้นมีโอกาสกลับไป outperform SET ได้จากโอกาสในการได้งาน EPC โรงไฟฟ้าเพิ่มเติม หลังโครงการพลังงานทดแทน 5.2GW จะเริ่มทยอย COD ในปี2567E เป็นต้นไป รวมถึงโอกาสในการได้โครงการเพิ่มในเฟสถัดไป 3.6GW เป็นอีก catalyst
นอกจากนี้ ผลประกอบการกลับเข้าสู่ภาวะขาขึ้นจากการทยอยรับรู้รายได้ โครงการพลังงานทดแทนใหม่ซึ่งจะทยอย COD ในปี 2569E ถึง 2573E หนุนกำลังการผลิตจากปี 2566 ที่ 0.6GW สู่ระดับ 1.5GW (ราคาเป้าหมายของเรารวมกำลังการผลิตไว้ 1.3GW เหลือโรงไฟฟ้าพลังงานลม 180MW เป็น upside หลังรอลงนาม PPA)
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรของ GUNKUL โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 2/2567 จะเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ตามปัจจัยฤดูกาลของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยและความเร็วลมที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงไตรมาส 1/2567
อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรปกติจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่สูงในปีก่อนหลังค่า FT ที่ปรับตัวลง และความเร็วลมที่ลดลงสู่ระดับใกล้เคียงปกติส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในไทยลดลง หากมองไปช่วงครึ่งหลังปี 2567 คาดว่ากำไรปกติสามารถเติบโตได้ทั้ง HoH และ YoY ตามปัจจัยฤดูกาลของโครงการพลังงานลมและการเติบโตของธุรกิจ Trading และ EPC
สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า GUNKUL คงเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตเป็น 2,000 Mwe ภายในปี 2567 ผ่านการลงทนในโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศและต่างประเทศ (ทั้งแบบ Greenfield และ M&A) เบื้องต้นคาดแผน PDP ฉบับใหม่จะมีการเปิด Public Hearing ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าและมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังปี 2567โดยฝ่ายวิจัยมองว่าแผนดังกล่าวจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการเติบโตของ GUNKUL ทั้งในธุรกิจไฟฟ้า (มีโอกาสเพิ่มเติมในการขยายกำลังการผลิต) และธุรกิจ EPC (เพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlogs เพิ่มเติม) แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเหมาะสม ปี 2567 ที่ 4.20 บาทต่อหุ้น