วายแอลจีชี้ราคาทองคำราคาผันผวนระยะสั้น หลังนักลงทุนขายทำกำไรจากการคลายความกังวลเหตุปะทะอิสราเอล - อิหร่าน ส่งผลทองคำมีจังหวะแกว่งตัวลงจนหลุดโซน 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ภาพรวมทั้งปียังมองบวก คงเป้าหมายที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ภาพรวมระยะยาว 2 - 3 ปีเทรนด์ยังขาขึ้น แม้ไม่มีเหตุการณ์ตะวันออกกลาง แต่ธนาคารกลางทั่วโลกยังสะสมทองคำต่อเนื่อง แนะนำนักลงทุนระยะสั้นเปิดสถานะขายหากไม่ผ่านแนวต้าน 2,324-2,345 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ส่วนทองคำในประเทศแนะนำแบ่งขายทำกำไรเช่นกันที่ 40,750-41,150 บาทต่อบาททองคำ พร้อมแนะนักลงทุนลงทุนทองคำผ่านฟิวเจอร์สสามารถทำกำไรทั้งในภาวะขาขึ้นและขาลง ล่าสุดจับมือ Tradingview เพิ่มช่องทางเข้าถึงการลงทุนฟิวเจอร์สในตลาด CME Group ตลาดฟิวเจอร์สอันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า กล่าวว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ โดยในวันนี้ (อังคาร 23 เม.ย.) ทำระดับต่ำสุดที่ 2,295 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ โดยราคามีความผันผวนหลังเกิดแรงขายทางเทคนิค จากช่วงก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง ด้วยความกังวลเหตุปะทะอิสราเอล - อิหร่าน ล่าสุดสถานการณ์ไม่ได้มีสัญญาณการตอบโต้กลับ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไร ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐยังส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยสูงไว้ และมีโอกาสที่จะเหลือการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพียง 1 ครั้ง
สำหรับคำแนะนำนักลงทุนในวันนี้ ระยะสั้นแนะนำเปิดสถานะขาย หากราคาปรับตัวขึ้นไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 2,324-2,345 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และตั้งจุดตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้านบริเวณ 2,345 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์?และพิจารณาทยอยปิดสถานะขายเพื่อทำกำไร หากราคาย่อตัวลงไม่หลุดแนวรับบริเวณ 2,286-2,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ 96.5% ประเมินแนวต้านไว้ที่โซน 40,750-41,150 บาทต่อบาททองคำ และแนวรับประเมินที่โซน 40,100-39,750 บาทต่อบาททองคำ
อย่างไรก็ตามความผันผวนของราคาทองคำมองว่าจะเกิดขึ้นแค่ในระยะสั้นเท่านั้น ภาพรวมทั้งปี วายแอลจียังคงเป้าหมายราคาทองคำในปีนี้ที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนทองคำที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความต้องการทองคำในระยะยาวที่มั่นคงของธนาคารกลางทั่วโลกกว่า 1,000 ตันต่อปีเป็นแรงหนุนสำคัญ และกระแสการลดอำนาจสกุลเงินดอลลาร์ (De-Dollarization) ก็สนับสนุนให้เกิดแรงซื้อทองคำสะสมของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่อง ส่วนระยะยาว 2 - 3 ปี ยังมองเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากแม้ปีนี้เฟดจะมีการยืดระยะเวลาการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไป แต่ในระยะ 2 - 3 ปี อัตราดอกเบี้ยต้องปรับลดลงเพราะการคงอัตราดอกเบี้ยสูงไว้ในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้มากเช่นกัน
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำในทุกสภาวะทั้งภาวะขาขึ้นและขาลงนั้น วายแอลจีแนะนำการลงทุนผ่านรูปแบบการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) โดยมี ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากตลาดฟิวเจอร์สเป็นการเข้าถึงการเทรดในตลาดระดับโลก เช่นการซื้อขายผ่าน Tradingview ด้วยบัญชี YLG Futures ที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนฟิวเจอร์สในตลาด CME Group ตลาดฟิวเจอร์สอันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ ที่มีสินค้าที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกครอบคลุม ทองคำ น้ำมันดิบ ดัชนีหุ้นสหรัฐ สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้ง สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย ซึ่งจุดเด่นของการลงทุนทองคำในฟิวเจอร์สคือสามารถลงทุนได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit