FSMART ไตรมาสแรกปี 2567 ผลงานแจ่มกำไรสุทธิ 93.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3% ส่วนรายได้ 551.39 ล้านบาท เพิ่ม 8.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ปีนี้เน้นขยายพอร์ตสินเชื่ออีก 500-800 ล้านบาทให้ลูกค้ากลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมเพิ่มช่องทางเคาน์เตอร์และตัวแทนธนาคาร ส่วน GINKA EV เดินหน้าติดตั้งให้ได้ 1,000 จุดชาร์จ ก่อนผลิตเครื่องชาร์จ GINKA Mini DC กำลังไฟ 40 กิโลวัตต์บุกตลาดไตรมาส 3 ชูจุดเด่นชาร์จไว เดินไฟไม่ยุ่งยากและคืนทุนเร็ว ส่วนคาเฟ่และปั๊ม EV แห่งแรกเตรียมได้เห็นปีนี้ ย้ำเป้าหมายโดยรวมปีนี้เติบโตมากกว่า 10%
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) "FSMART" ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร "บุญเติม" และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า "GINKA Charge Point" ภายใต้วิสัยทัศน์ "นวัตกรรมที่ยั่งยืนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น" กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทมีรายได้ 551.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 8.2% ที่มีรายได้ 509.56 ล้านบาท และ 2% จากไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 93.45 ล้านบาท 20.3% จากไตรมาส 1/2566 ที่มีกำไร 77.67 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 19.2% จากไตรมาส 4 ปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรดังกล่าว มาจากทุกกลุ่มธุรกิจที่ฟื้นตัว ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนการบริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่บริษัทวางแผนไว้
สำหรับการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทมุ่งมั่นบริหารงานทุกกลุ่มธุรกิจให้เติบโต โดยเฉพาะธุรกิจการเงินและสินเชื่อครบวงจรบริษัทวางแผนเป็นตัวแทนธนาคารเพิ่มอย่างน้อย 1 ราย จากเดิมที่มีอยู่ 8 ธนาคาร พร้อมขยายช่องทางเคาน์เตอร์แคชเชียร์ในร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าชั้นนำร่วมกับพาร์ทเนอร์เพิ่มเติมอย่างน้อย 1 ราย อีกทั้ง บริการสำหรับลูกค้าต่างด้าว (CLMV) สามารถทำรายการฝากและโอนผ่านได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ขณะเดียวกัน จะขยายการให้วงเงินสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคน เพิ่ม 500-800 ล้านบาท โดยมีการบริหารการจัดเก็บหนี้ด้วยการหักบัญชีธนาคารจ่ายชำระรายเดือน
ขณะที่ธุรกิจเติมเงิน-รับชำระเงินอัตโนมัติที่เป็นรายได้หลักจะเน้นให้บริการทางการเงินครบวงจรเข้าสู่ชุมชนด้วยจุดติดตั้งตู้บุญเติมมากกว่า 123,000 จุดเพื่อความสะดวกและเข้าถึงบริการ เช่นเดียวกับการขยายช่องทางเคาน์เตอร์แคชเชียร์เพิ่มเติม ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการของบริษัทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน อาทิ การเติมอินเตอร์เน็ตแพ็คเกจ การเติมเงินเข้า Wallet ที่มียอดการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมขยายบริการทางการเงินเพื่อรองรับการใช้บริการของกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทย รวมไปถึงจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้งานให้มากขึ้นด้วย
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวถึงกลุ่มธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายจุดติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า GINKA Charge point ให้ได้ 1,000 จุดทั่วประเทศเพื่อสอดรับกับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทได้เปิดให้บริการเครื่องชาร์จแบบ AC ไปแล้วมากกว่า 100 จุดบริการ ด้วยจุดเด่นเครื่องที่ผลิตและพัฒนาโดยเครือ FORTH บริษัทของคนไทย สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงคุณภาพให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานที่ง่าย สะดวก สำหรับลูกค้าให้สามารถเข้าถึงบริการได้ไม่ต้องใช้แอปพลิคชันในการใช้บริการ และสามารถเก็บเครดิตคงเหลือไว้ใช้ในการทำรายการครั้งถัดไปได้ ล่าสุดบริษัทเตรียมนำเครื่องชาร์จระบบ DC เครื่องเล็กระบบไฟ 40 กิโลวัตต์มาเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจ อีกทั้งยังช่วยแก้ pain point สำหรับเจ้าของพื้นที่ที่ต้องการเครื่องชาร์จเร็วรองรับผู้ใช้งานนอกเหนือจากการเข้าชาร์จในสถานีบริการขนาดใหญ่ คาดว่าจะผลิตพร้อมให้บริการได้ในไตรมาส 3 ปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนบริหารจัดการคาเฟ่เต่าบิน ร่วมกับ GINKA Charge Point ที่ FSMART จะเป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการ โดย 2 โมเดลใหม่ ได้แก่ แบบแรกบริการในลักษณะปั๊ม (EV Station) ที่จะมีร้านคาเฟ่และอาหารรูปแบบเคาน์เตอร์อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง โดยมีพื้นที่นั่งและเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติในรูปแบบการให้บริการด้วยตนเอง เช่น เคาน์เตอร์เครื่องดื่มชงสดอัตโนมัติเต่าบินที่มีเมนูหลากหลายและชงพร้อมกันได้หลายแก้ว เคาน์เตอร์อัตโนมัติจำหน่ายอาหารพร้อมทานต่าง ๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นทอด ไอศกรีมซอฟเซิร์ฟ เป็นต้น ส่วนแบบที่สองจะเป็นคาเฟ่เต่าบินรูปแบบร้านเล็กๆในจุดพักระหว่างเดินทางที่มีเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (GINKA) ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเปิดให้บริการแห่งแรกในปีนี้
ส่วนตู้จำหน่ายเครื่องดื่มชงสดอัตโนมัติ "เต่าบิน" โรโบติกบาริสต้า มียอดขายเฉลี่ยดีขึ้นทุกเดือนตั้งแต่ต้นปี ส่งผลดีให้มียอดจำหน่ายไปมากกว่า 150 ล้านแก้ว ซึ่งล่าสุดจัดรายการส่งเสริมการขายให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ลงทะเบียนผ่านไลน์ เพื่อแลกซื้อเครื่องดื่มในราคาเพียง 1 บาท มุ่งเน้นเมนูกาแฟ 500,000 แก้ว และเมนูชูกำลัง (เต่าทรงพลัง) 500,000 แก้ว รวมทั้งหมด 1 ล้านแก้ว เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าใหม่ได้ลองใช้บริการและสร้างการซื้อซ้ำทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ควบคู่กับการเลือกทำเลที่มีทั้งศักยภาพที่ดี โดยมั่นใจและยังคงเป้าหมายที่จะขยายจุดบริการ 20,000 จุดทั่วประเทศ ภายใน 3 ปี ซึ่ง FSMART จะได้รับค่าบริการการให้บริการระบบรับชำระเงินในตู้เต่าบิน และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุน (Equity Income Method) ในบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด จากการถือหุ้น 26.71%
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit