InnovestX บุกตลาดกองทุน คัดกองแกร่ง Core Portfolio เพื่อผลตอบแทนระยะยาว ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และภาวะสงคราม

09 May 2024

InnovestX บุกตลาดกองทุน คัดกองแกร่ง Core Portfolio เพื่อผลตอบแทนระยะยาว ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และภาวะสงคราม

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เรือธงด้านการลงทุนภายใต้ กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) เดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์และบริการด้านกองทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา สามารถสร้างความสนใจให้นักลงทุน ลงทุนในกองทุนและมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ากองทุนกว่า 9 เท่า (Inflow) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2566 ด้วย 3 จุดเด่น ได้แก่ 1. คัดกองทุนเด็ดแบบเป็นกลางจากทุก บลจ. กว่า 1,800 กองทุน 2. คัดคำแนะนำการลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม และเหมาะกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา และ 3. คัดของดี ราคาคุ้ม สิทธิพิเศษที่เหนือกว่า ล่าสุด แนะนำ 4 กองทุนแกร่ง กองทุนหุ้นโลก SCBWORLD(A), กองทุนตราสารหนี้โลก PRINCIPAL GFIXED, กองทุนอสังหาริมทรัพย์โลก SCBGPROPA และกองทุนทองคำ SCBGOLDH สำหรับสร้าง Core Portfolio พอร์ตหลักที่นักลงทุนต้องมี เพื่อสร้างความมั่นคง และโอกาสเติบโตระยะยาว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจโลก ความหวังในการลดดอกเบี้ยน้อยลง ผนวกกับความกังวลด้านความขัดแย้งในตะวันออกกลาง พร้อมดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ฟรี ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อกองทุน (Front-end Fee) ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 - 28 มิถุนายน 2567 นี้ เท่านั้น

นายพยนต์ พงศาวรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานฝ่าย Wealth Products and Strategy บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า "ภาพรวมการลงทุนในช่วงเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกยังอยู่ในภาวะ "ปรับฐานและปรับความคาดหวัง" ด้านดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะปรับฐาน ในขณะที่ ความคาดหวังด้านการลดดอกเบี้ยของนักลงทุนนั้นเริ่มลดลง หลังจากประธาน Fed และสมาชิกธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่วนมาก เริ่มถอยกับแนวทางการลดดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากที่เกิดความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง จนกดดันราคาน้ำมันอีกครั้ง โดยในเดือนพฤษภาคม InnovestX มองว่า มี 4 ประเด็นที่ต้องจับตา ได้แก่ 1. ความกลัวในเรื่อง "Sell in May" ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดของผู้จัดการกองทุนต่างชาติ ทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางกว่าปกติ 2. ความกังวลด้านการกลับมาของเงินเฟ้อ หลังเงินเฟ้อ (Core PCE YoY) ของสหรัฐฯ เริ่มทรงตัว 3. การประชุม FED เดือน พ.ค. เป็นการส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด จากเดิมที่คาดลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง สู่ระดับ 1 - 2 ครั้ง อย่างไรก็ตามการส่งสัญญาณชะลอการลดขนาดงบดุล ช่วยลดแรงกดดันด้านสภาพคล่อง และ 4. ความกังวลด้านทิศทางการดำเนินงานที่ชะลอตัวลง ด้วยเหตุผลข้างต้นประกอบกับการปรับตัวบวกของหุ้นในหลายๆ ตลาด นับตั้งแต่ต้นปี มีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นจะอยู่ในภาวะที่ชะลอตัว ด้วยเหตุนี้ InnovestX ประเมินว่ากลยุทธ์การลงทุนในเดือนพฤษภาคม เป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องคัดแยกตลาดที่แข็งแกร่งออกจากตลาดที่อ่อนแอด้านปัจจัยพื้นฐาน โดยภาพรวมการที่ตลาดหุ้นมีโอกาสพักฐาน เป็นโอกาสในการสะสมพอร์ตการลงทุนระยะกลาง - ยาว (3-6 เดือน และ 12 เดือนขึ้นไป) ตลาดหุ้นที่น่าสนใจในการทยอยสะสมคือ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และจีน"

รายละเอียด 4 กองทุน ที่ InnovestX แนะนำลงทุน

  1. กองทุนหุ้นโลก SCBWORLD(A): การลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจของบริษัทมหาชนทั่วโลกที่คาดหวังการเติบโตของมูลค่ากิจการในระยะยาว กองทุน SCBWORLD(A) เน้นลงทุนหุ้นเด่นทั่วโลก ตามดัชนี MSCI World สินทรัพย์ที่ลงทุน 5 อันดับแรกของกองทุน ลงทุนในหุ้น 7 Magnificent อาทิ
    • Microsoft หนึ่งในผู้นำด้าน AI ระดับโลก และเป็นบริษัทที่มีมูลค่า อันดับ 1 ของโลก เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการเทคโนโลยีต่างๆ
    • Apple ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นหุ้นที่ Warren Buffett ถือครองมากที่สุดในพอร์ต
    • Nvidia ผู้เล่นสำคัญในตลาดชิป AI ที่มีการเติบโตกว่า 2000% ใน 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่พัฒนาและผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิกและระบบประมวลผลเสมือนจริง ส่งออกให้ธุรกิจเทคโนโลยีทั่วโลก
    • Amazon.com บริษัทอีคอมเมิร์ซและบริการออนไลน์ รวมถึง Cloud Computing ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    • Meta Platforms บริษัทด้านเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียชื่อดังระดับโลก เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp และยังทำธุรกิจที่เกี่ยวกับความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality)
  2. กองทุนตราสารหนี้โลก PRINCIPAL GFIXED: ในสภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ตราสารหนี้ จะช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ต เน้นลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) ซึ่งเป็นตลาดที่มีประสิทธิภาพ และมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง อีกทั้งนักลงทุนยังได้ประโยชน์จากผลตอบแทน ในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง โดยลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income หนึ่งในกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงทั่วโลก กองทุนจัดตั้งมาอย่างยาวนาน ผ่านทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ บริหารโดยทีมประสบการณ์สูง เด่นด้านกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกแบบยืดหยุ่น เพื่อเฟ้นหาตราสารหนี้ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับพอร์ตการลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ และมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด
  3. กองทุนอสังหาริมทรัพย์โลก SCBGPROPA: การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนทั้งในด้านการเติบโตของราคา และการจ่ายเงินปันผล นักลงทุนสามารถซื้อขายได้โดยมีสภาพคล่องสูงกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง SCBGPROPA ลงทุนในกองทุนหลัก BGF World Real Estate Securities Fund กระจายลงทุนในหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ราว 60 - 90 หลักทรัพย์ โดยทีมผู้จัดการกองทุนหลักจะทำการประเมินปัจจัยพื้นฐานเพื่อเฟ้นหาหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพสูง และมีมูลค่าเหมาะสมที่กระจายตัวอยู่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก
  4. กองทุนทองคำ SCBGOLDH: สินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับในการสะสมความมั่งคั่ง โดยราคาของทองคำมักจะปรับตัวขึ้นสวนทางกับสินทรัพย์อื่นๆ ในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือวิกฤตด้านภูมิรัฐศาสตร์ SCBGOLDH ลงทุนในกองทุนหลัก SPDR Gold Shares ETF (GLD) มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องไปกับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยลงทุนในทองคำแท่งบริสุทธิ์ตั้งแต่ 99.5% ขึ้นไป และได้รับการจัดเก็บดูแลโดยสถาบันการเงินระดับสากล อาทิ JPMorgan SCBGOLDH มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศ

สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถอ่านรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ www.innovestx.co.th/products/fund/ติดตามบทวิเคราะห์ และกลยุทธ์การลงทุนที่ www.innovestx.co.th/research และ Facebook: InnovestX