บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เปิดผลงานไตรมาส 3/66 รายได้-กำไรโตเด่น โดยมีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 196 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนไม่น้อยหน้า มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 577 ล้านบาท รับอานิสงส์ธุรกิจขนส่งทุกส่วนขยายตัว ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง รวมถึงขยาย Fleet ธุรกิจ Mixer ได้ตามแผน และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TDM และบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟากซีอีโอ "สุวรรณา ขจรวุฒิเดช" ฉายภาพแนวโน้มไตรมาส 4/66 ยังเติบโตต่อเนื่อง ตามธุรกิจโลจิสติกส์ทุกประเภทที่ขยายตัว รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ขณะที่ TDM ได้รับปัจจัยบวกจาก CJ มีการขยายสาขาช่วงไตรมาส 4/66 ทำให้มั่นใจช่วยผลักดันผลงานปี 66 สร้างสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566) ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 96% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 11 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 196 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 186 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนของปีนี้ มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท
สาเหตุที่รายได้และกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 ของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน บริษัท ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) รวมถึงราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวลดลง ส่งผลทำให้ต้นทุนลดลงทันที อีกทั้งปริมาณฝนที่ตกเฉลี่ยน้อยกว่าปีก่อนและการขยายงานของบริษัทฯ ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/2566 เชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มขยายตัว โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการขนส่งรถคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมถึงแผนขยาย Fleet ธุรกิจ Mixer อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และ TDM ได้รับอานิสงส์จากรายได้จากการที่ CJ มีการขยายสาขาที่เร่งตัวขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาส 4/2566 ทำให้มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ
"แม้ช่วงเดือนกันยายน และตุลาคมปริมาณฝนจะตกค่อนข้างชุก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการให้บริการอยู่บ้าง แต่ผลการดำเนินงานสะสม 9 เดือน ยังสามารถเติบโตได้ใกล้เคียงกับแผน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากบริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภทยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงทยอยรับรู้กำไรจาก TDM และราคาน้ำมันที่ปรับลดลงเป็นแรงหนุนทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตตามที่คาดไว้ " นางสุวรรณากล่าว
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 MENA มีรถขนส่งให้บริการ 752 คัน แบ่งเป็น รถมิกเซอร์ 546คัน รถเทรลเลอร์ 61 คัน หางพ่วงชนิดต่างๆ 108 หาง รถบรรทุกอาหารสัตว์ 23 คันและรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิรวมอีก 14 คัน โดยมีแผนขยายฟลีทรถอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านการขนส่งทั้งในส่วนของรถมิกเซอร์ รถเทลเลอร์ รถควบคุมอุณหภูมิ และรถขนส่งสินค้าเฉพาะทางเพื่อต่อยอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งตั้งเป้ามีรถพร้อมให้บริการอยู่ที่ 790 คันภายในสิ้นปี 2566 ขณะมาร์เก็ตแชร์ปัจจุบันอยู่ที่ 11%
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit