การผลักดันให้คนทั่วโลกเข้าถึงโภชนาการที่ดี เป็นนโยบายที่หลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล องค์กรสาธารณสุข รวมทั้งกลุ่มธุรกิจเอกชนให้ความสำคัญและมีการดำเนินงานอย่างจริงจัง โดยต่างมุ่งหวังให้ประชากรในทุกระดับมีพัฒนาการที่ดีตั้งแต่แรกเกิด ต่อเนื่องถึงวัยเจริญพันธุ์ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงวัยต่าง ๆ ที่ร่างกาย เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงโภชนาการที่ดีในปัจจุบันนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยังท้าทายอย่างมากสำหรับทุก ๆ ภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่เพียงปริมาณอาหารที่ขาดแคลน แต่ฝังรากลึกไปถึงคุณค่าทางโภชนาการที่ทุกคนควรได้รับ และสิ่งเหล่านี้ไมได้ส่งผลกระทบแค่เพียงระดับบุคคลแต่มีผลอย่างมากกับภาพใหญ่ในระดับประเทศ
สำหรับการส่งเสริมให้เข้าถึงโภชนาการที่ดีมีการดำเนินงานผ่านหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่เป็นรูปธรรมก็คือ "การดื่มนม" แหล่งรวมสารอาหารที่มีความสำคัญกับทุกช่วงวัย และเป็นอาหารที่จำเป็นตลอดห่วงโซ่ชีวิต โดยนมยังเป็นอาหารขั้นพื้นฐานที่ส่งเสริมให้เข้าถึงได้ง่ายที่สุด เนื่องด้วยอายุในการจัดเก็บ สารอาหารที่รวมอยู่ใน บรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการดื่มนมที่กว้างขึ้น วันนี้ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มยอดนิยมของคนไทย และส่งเสริมให้ทุกคนได้รับโภชนาการที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง จะพาไปดูเหตุผลกันว่าทำไมการดื่มนมจึงเป็นเรื่องจำเป็นและให้มากกว่าพัฒนาการที่ดีทางด้านร่างกาย และเมื่อทุกคนได้ดื่มนมอย่างสม่ำเสมอจะเกิดข้อดีอะไรกับชีวิตขึ้นบ้าง
นายวิภาส ปวโรจน์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่โลกผ่านพ้นจากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด - 19 สถานการณ์ดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดและภาพสะท้อนถึงปัญหาทุพโภชนาการที่ชัดเจนในหลาย ๆ ภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและครอบครัวเปราะบางที่ยังคงขาดการได้รับโภชนาการที่ดี สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ภาพที่เห็นการดำเนินชีวิตของเด็กทั่วไปที่นั่งเรียน ทำกิจกรรม เล่นกันอย่างสนุกสนาน แท้จริงแล้วภาพเหล่านั้นแฝงไปด้วยภาวะขาดโภชนาการ เช่น ภาวะเตี้ยแคระเกร็น ภาวะโภชนาการเกิน เช่น น้ำหนักเกินและโรคอ้วน ปัญหาการขาดสารอาหารรองหรือไมโครนิวเทรียนส์ เด็กที่อายุ 6 เดือน - 12 ปี ได้รับแคลเซียมที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน เป็นต้น
โดยประเด็นที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นสิ่งที่ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) เห็นมาอย่างต่อเนื่อง และเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อเติมเต็มโอกาสสำคัญที่ผู้บริโภค คนในสังคม และเศรษฐกิจควรได้รับ ผ่านการใช้ศักยภาพขององค์กรอย่างการเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ตรงกับบริบทที่สังคมกำลังเผชิญและส่งต่อไปสู่กลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการดื่มนมให้อยู่ในวิถีชีวิตของคนไทย และเด็กไทย ซึ่งตลอดการดำเนินงานเห็นถึงสัญญาณที่ดีทั้งในภาพของการเป็น Trend Setter ในการนำงานวิจัยมาสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ เกิดความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนที่พร้อมเติมเต็มภาวะโภชนาการคนไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในรูปแบบ Sharing ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ยังคงเหมาะสมต่อโลก ประเทศไทย และแก้ Pain Point ได้ตรงจุด
"หนึ่งในโครงการเพื่อส่งต่อโภชนาการที่ดีและเติมเต็มโอกาสที่ได้จากการดื่มนมของฟรีสแลนด์คัมพิน่า คือ "โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย" โดยในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 และได้ดึงความร่วมมือจากหลายองค์กรทั้ง พาร์ทเนอร์หลักอย่างมูลนิธิกระจกเงา ผู้บริโภค กลุ่มร้านค้า มาร่วมกันส่งมอบนมพร้อมดื่ม UHT สำหรับเด็ก โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 จำนวน 3,000,000 กล่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ให้แก่เด็กและครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยในปีนี้ได้ส่งมอบไปแล้ว 86 ชุมชน และได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างยิ่งทั้งจากผู้ที่เข้าใจถึงความจำเป็นในด้านการดื่มนมอย่างกลุ่มคุณแม่ ครอบครัว องค์กรธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานเพื่อสังคม นอกจากนี้ ยังได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมูลนิธิกระจกเงาที่พร้อมจะเป็นผู้สะท้อนสิ่งที่ขาดและเติมเต็มสิ่งเหล่านั้นกลับไปสู่สังคมอีกด้วย"
นายวิภาส กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ในทางตลาดผลิตภัณฑ์อย่างนมพร้อมดื่ม UHT โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 จะมีการครองตำแหน่งส่วนแบ่งทางตลาด 41 % แต่ตัวเลขเหล่านี้อาจไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดทั้งหมด เพราะเรายังมี ไมล์สโตนที่จะเป็นผู้ผลิตอาหารอันดับต้น ๆ ที่ทุกคนนึกถึงในด้านความครบครันของโภชนาการที่ผู้บริโภคทุกคนจะได้รับในทุก ๆ วัน การเป็นองค์กรที่พร้อมแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ให้กับสังคม เช่น ข้อมูลสำคัญ งานวิจัย โอกาสจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทสนับสนุน และท้ายที่สุดยังมุ่งหวังว่าประเด็นความท้าทายใด ๆ ก็ตามที่คนในสังคมยังไม่สามารถเข้าถึงได้ช่องว่างเหล่านั้นจะต้องแคบลง หรือเกิดรอยรั่วน้อยที่สุด แม้จะสวนทางกับความไม่แน่นอนหรือภาวะเศรษฐกิจในรูปแบบใดก็ตาม
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit