โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานบนที่ราบสูงแห่งหนึ่ง ซึ่งใช้โมดูลของบริษัท ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) ได้เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองเฟส และมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 200 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ 340 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยลดการใช้ถ่านหินลง 102,300 ตัน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 280,800 ตันต่อปี
เฟสแรกของโครงการได้วางรากฐานอย่างมั่นคงให้กับทรินา โซลาร์ ในการส่งมอบโมดูลกำลังสูง เวอร์เท็กซ์ เอ็น (Vertex N) ขนาด 700 วัตต์ จำนวน 88 เมกะวัตต์ในเฟสที่สอง
โรงไฟฟ้าดังกล่าวต้องเผชิญกับความแตกต่างของอุณหภูมิอย่างมากและลมกระโชกแรง ดังนั้น ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของโมดูลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรับประกันเสถียรภาพของการดำเนินงาน หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ทางเจ้าของโรงไฟฟ้าก็ได้ตัดสินใจเลือกใช้โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น ขนาด 700 วัตต์ของทรินา โซลาร์
โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น ขนาด 700 วัตต์ ผสานเทคโนโลยีเซลล์ขนาด 210 มม. เข้ากับเทคโนโลยีเซลล์ไอ-ท็อปคอน (i-TOPCon) ชนิดเอ็นไทป์ (n-type) ขั้นสูง มาพร้อมกำลังสูง ประสิทธิภาพสูง ความน่าเชื่อถือสูง ผลผลิตไฟฟ้าสูง และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย (LCOE) ต่ำ จึงช่วยลดต้นทุนอุปกรณ์ประกอบระบบ (BOS) ลงอีก และเป็นทางเลือกในอุดมคติสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระดับสาธารณูปโภค ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น ขนาด 700 วัตต์ ได้ผ่านการทดสอบความน่าเชื่อถือเพิ่มเติมโดยศูนย์ทดสอบพลังงานทดแทน (RETC) ด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่น แม้ในที่ราบสูง โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็นขนาด 700 วัตต์ ก็ยังมีความน่าเชื่อถือในระดับสูงและมอบคุณค่าที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า
โรงไฟฟ้าแห่งใหม่นี้ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในบางพื้นที่เท่านั้น แต่ยังมอบประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดย ณ สิ้นเดือนตุลาคม โรงไฟฟ้าแห่งนี้สร้างงานราว 1,200 ตำแหน่งให้แก่เกษตรกรและผู้เลี้ยงสัตว์ ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้สนับสนุนการปลูกหญ้า ทั้งยังช่วยรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติด้วยการป้องกันพายุทรายด้วยโมดูล ก่อให้เกิดวงจรที่ดีในระบบนิเวศ และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ
หัวหน้าโครงการระบุว่า "เรายินดีที่ได้ร่วมงานกับทรินา โซลาร์ อีกครั้ง โครงการนี้เผชิญกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่มากมาย เช่น พื้นที่สูง ตารางงานที่เร่งรัด และระยะเวลาส่งมอบที่กระชั้นชิด แต่ทรินา โซลาร์ ก็สามารถเอาชนะอุปสรรคสำคัญเหล่านี้ได้ทั้งหมด และจัดส่งโมดูลให้กับไซต์งานได้อย่างทันท่วงที ซึ่งช่วยการันตีความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการ"
ทรินา โซลาร์ ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ มีความมุ่งมั่นในการทำพันธกิจ "พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อทุกคน" (Solar Energy for All) ให้สำเร็จ โดยบริษัทจะเดินหน้าทำงานกับลูกค้าและพันธมิตรต่อไป เพื่อช่วยให้ประเทศจีนบรรลุเป้าหมายคาร์บอนคู่ขนาน (Dual Carbon) และการฟื้นฟูเศรษฐกิจในชนบท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit