MedAlliance บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์จากสวิตเซอร์แลนด์ ถูก Cordis เข้าซื้อกิจการเป็นอันเสร็จสิ้น ซึ่งประกอบด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเมื่อปี 2565 รวม 35 ล้านดอลลาร์ เงินชำระล่วงหน้า 200 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 เงินสูงสุด 125 ล้านดอลลาร์ตามความสำเร็จด้านการกำกับดูแล และเงินสูงสุด 775 ล้านดอลลาร์ตามความสำเร็จเชิงพาณิชย์ไปจนถึงปี 2572 ซึ่งส่งผลให้ข้อตกลงนี้มีมูลค่ารวมสูงถึง 1.135 พันล้านดอลลาร์
Cordis เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยีสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือดและการสวนหลอดเลือด ขณะที่ MedAlliance นำเสนอผลิตภัณฑ์เซลูชัน เอสแอลอาร์ (SELUTION SLR(TM) หรือ Sustained Limus Release) ซึ่งเป็นบอลลูนเคลือบยา (DEB) ไซโลลิมัสปล่อยยาสม่ำเสมอที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและมุ่งปฏิวัติวงการ ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มผลิตภัณฑ์เดิมของ Cordis รวมถึงส่งเสริมการขาย การตลาด และความเชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่าย อีกทั้งลูกค้าของ Cordis จะได้รับประโยชน์จากโครงการศึกษาทางคลินิกที่กว้างขวางและแผนการเผยแพร่ผลการศึกษาของ MedAlliance เพื่อสานต่อมรดกของ Cordis ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมให้แก่ผู้ป่วย
"การซื้อกิจการโดย Cordis จะช่วยเร่งการเข้าถึงเทคโนโลยีอันก้าวล้ำนี้ แก่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายทั่วโลก" คุณเจฟฟรีย์ บี จัมป์ (Jeffrey B. Jump) ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการ และซีอีโอบริษัท MedAlliance กล่าว "ผมต้องขอบคุณทีมงาน MedAlliance ทุกท่าน รวมถึงแพทย์ ผู้จัดจำหน่าย และผู้ป่วยทางคลินิกที่ประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมตลาดหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดแดงส่วนปลาย เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ คลังข้อมูลทางคลินิกจากบอลลูนเคลือบยาเซลูชัน เอสแอลอาร์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติทางการแพทย์และปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วย"
"เกือบ 20 ปีที่แล้ว Cordis ได้เปิดตัวไซเฟอร์ (CYPHER(R)) ซึ่งเป็นขดลวดเคลือบยาตัวแรกที่พลิกโฉมการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับผู้ป่วยทั่วโลก" คุณชาร์ มาติน (Shar Matin) ซีอีโอของ Cordis กล่าว "ในฐานะบริษัทอิสระแห่งใหม่ เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้สานต่อมรดกด้านนวัตกรรมและพลิกโฉมตลาดร่วมกับ MedAlliance และเซลูชัน เอสแอลอาร์ บอลลูนเคลือบยาไซโลลิมัสแบบไมโครเรเซอร์วัวร์ (MicroReservoirs) ตัวแรก"
คุณจอร์จ อดัมส์ (George Adams) สมาชิกคณะกรรมการอำนวยการประจำโครงการ US SELUTION4SFA และ SELUTION4BTK IDE และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดแดงส่วนปลาย โรงพยาบาลเร็กซ์ เมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รายงานข้อมูลเชิงบวกของเซลูชัน เอสแอลอาร์ มาจนถึงตอนนี้ ด้วยประสบการณ์ตรงจากการสัมผัสกับผลลัพธ์ทางคลินิกอันน่าประทับใจของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเซลูชัน เอสแอลอาร์ ในญี่ปุ่น อินเดีย ยุโรป และอเมริกาใต้ ปัจจุบัน เรากำลังพยายามสร้างผลลัพธ์เช่นนี้ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีโอกาสอย่างมากในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์การรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดแดงส่วนปลาย"
เซลูชัน เอสแอลอาร์ ได้รับการรับรองมาตรฐานซีอี มาร์ค (CE Mark) สำหรับรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และผ่านการรับรองให้ใช้รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 MedAlliance เป็นผู้ผลิตบอลลูนเคลือบยาแห่งแรกที่ได้รับการรับรองสถานะ Breakthrough Designation ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) นอกจากข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาโรคหลอดเลือดบริเวณใต้หัวเข่า (BTK) และโรคหลอดเลือดแดงบริเวณต้นขาชั้นตื้น (SFA) ซึ่งบริษัทได้รับการรับรอง IDE จาก FDA ในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม 2565 แล้ว MedAlliance ยังได้รับการรับรอง IDE สำหรับโรคหลอดเลือดที่เกิดการตีบซ้ำภายในขดลวด (ISR) ในเดือนตุลาคม 2565 และการรับรองสำหรับรอยโรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม 2566
หลังจากที่ได้รับสถานะ IDE แล้ว โครงการวิจัยเซลูชัน เอสแอลอาร์ ที่ดำเนินการกับ FDA รวม 3 รายการ ขณะนี้กำลังเปิดรับอาสาสมัครร่วมโครงการที่ 4 โดยจะสรรหาผู้ป่วยที่มีรอยโรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดครั้งแรก ซึ่งมีแผนเริ่มดำเนินการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โครงการล่าสุดนี้จะเสริมด้วยประสบการณ์ที่มีมากมายจากโครงการทดลองเซลูชัน เดอโนโว (SELUTION DeNovo) ในยุโรป ซึ่งมีผู้ป่วยเข้าร่วมโครงการกว่า 1,700 รายแล้ว มาถึงครึ่งทางแล้วจากจำนวนที่วางแผนไว้ที่ 3,326 คน ทั้งนี้ โครงการศึกษาเซลูชัน เดอโนโว นี้เปรียบเทียบวิธีการรักษาโดยใช้บอลลูนเคลือบยาไซโรลิมัส เซลูชัน เอสแอลอาร์ กับขดลวดเคลือบยา (DES) ลิมัส [ClinicalTrials.gov Identifier: NCT04859985] การศึกษานี้ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติทางการแพทย์ เนื่องจากในปัจจุบันรอยโรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดครั้งแรกโดยส่วนใหญ่ได้รับการรักษาด้วยขดลวดโลหะแบบถาวร
เทคโนโลยีบอลลูนเคลือบยาของ MedAlliance ประกอบด้วยไมโครเรเซอร์วัวร์ (MicroReservoirs) ซึ่งผลิตขึ้นจากพอลิเมอร์แบบสลายได้ทางชีวภาพผสมเข้ากับยาไซโลลิมัส (Sirolimus) ลดการตีบตันซ้ำที่เคลือบบนพื้นผิวของบอลลูนขยายหลอดเลือด ไมโครเรเซอร์วัวร์เหล่านี้ทำหน้าที่ควบคุมการปลดปล่อยยาให้สม่ำเสมอเป็นเวลาถึง 90 วัน ขณะเดียวกัน เทคโนโลยี CAT(TM) (Cell Adherent Technology) อันเป็นกรรมสิทธิ์ของ MedAlliance ยังช่วยให้ไมโครเรเซอร์วัวร์เคลือบบนบอลลูนและติดเข้ากับช่องภายในหลอดเลือดขณะให้ยาผ่านบอลลูนขยายหลอดเลือด
เซลูชัน เอสแอลอาร์ มีวางจำหน่ายในยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และทวีปอเมริกา (นอกสหรัฐอเมริกา) และเกือบทุกประเทศที่ยอมรับมาตรฐานซีอี มาร์ค โดยมีการใช้งานไปแล้วกว่า 40,000 ชุดสำหรับการรักษาผู้ป่วยในเวชปฏิบัติทั่วไปหรือในการทดลองทางคลินิกเพื่อรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
เกี่ยวกับ Cordis
Cordis เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยีการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยมีประวัติยาวนานกว่า 60 ปีในการบุกเบิกการบำบัดรักษาผู้ป่วยหลายล้านคน ประกอบกับชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญทางคลินิก การฝึกอบรม และการบริการ Cordis มีมรดกด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดที่มีคุณภาพสูงและทำให้เกิดแผลน้อย พร้อมวางรากฐานที่แข็งแกร่งระดับโลกด้วยการดำเนินงานกว่าใน 70 ประเทศทั่วโลก
สื่อมวลชนติดต่อ ริชาร์ด เคนยอน (Richard Kenyon)
อีเมล: [email protected]
โทร: +44 7831 569940
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2236013/MedAlliance.jpg
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1196864/4316239/MedAlliance_Logo.jpg
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit