บริษัท ทรินา โซลาร์ จำกัด (Trina Solar Co., Ltd.) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะเพื่ออนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ได้ตอกย้ำความสำคัญของความร่วมมือตลอดห่วงโซ่คุณค่าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ในการประชุมสุดยอดบลูมเบิร์กเอ็นอีเอฟ ประจำปี 2566 (BloombergNEF (BNEF) Summit 2023) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอนเมื่อต้นเดือนนี้
คุณกอนซาโล เดอ ลา บิญญา (Gonzalo de la Vi?a) ประธานบริษัท ทรินา โซลาร์ ประจำภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวในงานว่า "เราต้องทำงานร่วมกันและยกระดับการใช้พลังงานสีเขียวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์สำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป"
ในการกล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับ คุณเดอ ลา บิญญา ได้เรียกร้องให้อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายพลังงานสีเขียวของยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ โดยเขาได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมใน 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ การทำให้พลังงานหมุนเวียนมีราคาที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน บทบาทของเซลล์แสงอาทิตย์ในฐานะส่วนหนึ่งของระบบพลังงานใหม่แบบองค์รวม ความจำเป็นในการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญระดับชาติ รวมถึงความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนในระยะยาว
ในการอภิปรายแบบคณะซึ่งดำเนินรายการโดยคุณทิม เดย์ (Tim Day) ผู้จัดการกองทุนเพื่อการลงทุนของทรินา โซลาร์ ได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้นำอุตสาหกรรมมาร่วมกันสำรวจแนวทางในการสร้างความร่วมมือและกำหนดเป้าหมายร่วมกันเพื่อตอบสนองความต้องการของทั่วโลกในการสร้างอนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยคณะผู้อภิปรายประกอบด้วยตัวแทนจาก อากีลา แคปิตอล (Aquila Capital), เอนิ เพลนนิทูด (Eni Plenitude), เน็กซ์ เอเนอร์จี แคปิตอล (Next Energy Capital) และ อิเบร์โดรลา (Iberdrola)
นอกจากนี้ นัยสำคัญของความไว้วางใจ ความร่วมมือ และนวัตกรรม ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญของการอภิปราย ดังที่คุณรอสซาโน ฟรังเซีย (Rossano Francia) หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อทั่วโลกของเพลนนิทูด กล่าวว่า ความโปร่งใสของซัพพลายเออร์จะช่วยให้ธุรกิจในภาคพลังงานหมุนเวียนมีความเท่าเทียมกัน ในขณะที่กฎระเบียบใหม่ด้านความยั่งยืนจะช่วยให้อุตสาหกรรมก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน
คุณเควิน แมคเคลแลนด์ (Kevin Mclelland) ผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้างและจัดซื้อทั่วโลกของ เน็กซ์ เอเนอร์จี แคปิตอล กล่าวเสริมว่า ความรับผิดชอบและการผลิตในท้องถิ่นเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ต้องให้ความสำคัญเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน
ขณะที่คุณเฟอร์นานโด ตอร์ริโก (Fernando Torrico) วิศวกรไฟฟ้าของอิเบร์โดรลา เชื่อว่าธุรกิจควรร่วมมือกันทบทวนเกี่ยวกับระบบพลังงานที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอดีต เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
หลังการอภิปรายแบบคณะสิ้นสุดลง คุณโอเซอร์ เออร์กูล (?zer Erguel) ผู้บริหารด้านความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานและความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานของอากีลา แคปิตอล ให้ความเห็นว่า การสนทนาแลกเปลี่ยนครั้งนี้ "มีความลึกซึ้งอย่างแท้จริง" พร้อมกับเน้นย้ำว่า ความโปร่งใสคือรากฐานของการทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยขจัดความขัดแย้งที่จะมาขัดขวางการเร่งใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ และในขณะเดียวกันก็จะช่วย "สร้างความกระจ่าง" ในอีกหลายปีข้างหน้าด้วย
ในโอกาสนี้ คุณเดอร์ริก โควอลสกี (Derrick Kowalski) หัวหน้าฝ่ายขายสาธารณูปโภคประจำยุโรป ได้กล่าวนำเสนอในหัวข้อ รวมกันเป็นหนึ่งเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า: ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยระบุว่า ทรินา โซลาร์ จะทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านความยั่งยืนต่อไป เพื่อเร่งสร้างห่วงโซ่คุณค่าพลังานแสงอาทิตย์และบรรลุอนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ พร้อมกับเสริมว่า "ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ทรินา โซลาร์ ยังคงยึดมั่นในพันธกิจ "พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อทุกคน" (Solar Energy for All) และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะเพื่ออนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยบูรณาการการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเงินที่ยั่งยืน และการผลิตที่ยั่งยืนเข้าด้วยกัน"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit