มูลนิธิสัมมาชีพเตรียมจัดงานรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ 17 พ.ย. นี้ ภายใต้แนวคิด "สัมมาชีพ สร้างความมั่นคงฐานราก สร้างความยั่งยืนประเทศ"เผยมีผู้สนใจส่งเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ร่วมประกวดสูง
"มูลนิธิสัมมาชีพ" เตรียมจัดงานมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2566 ชูแนวคิด "สัมมาชีพ สร้างความมั่นคงฐานราก สร้างความยั่งยืนประเทศ" 17 พ.ย นี้ ณ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เผยมีผู้สนใจส่งเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และปราชญ์ชาวบ้านเข้าร่วมประกวดรางวัลต้นแบบสัมมาชีพสูง
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่า มูลนิธิสัมมาชีพเตรียมจะจัดงานมอบรางวัล "ต้นแบบสัมมาชีพ" ครั้งที่ 9 ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและยกย่องเชิดชูบุคคล- เอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพที่ได้รับการยอมรับจากสังคมในการประกอบอาชีพโดยสุจริต ดำเนินธุรกิจหรือกิจการตามหลักสัมมาชีพ ตลอดจนมีความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมพัฒนาและสร้างประโยชน์แก่ชุมชน ท้องถิ่น เพื่อผู้ที่ได้รับรางวัลเหล่านั้นจะได้เป็นต้นแบบแก่ผู้สนใจนำไปปรับใช้ ขยายผลต่อ โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ณ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ
สำหรับแนวคิดการจัดงานครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม "สัมมาชีพ สร้างความมั่นคงฐานราก สร้างความยั่งยืนประเทศ" Stability for Sustainability เพื่อสะท้อนถึงภารกิจของมูลนิธิฯ ที่มุ่งมั่นในการมีส่วนช่วยยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง เพื่อสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนแก่ประเทศ โดยมูลนิธิฯ ได้ร่วมมือกับองค์กรภาคี หน่วยงานต่างๆ ทำงานด้านนี้อย่างต่อเนื่อง
"มูลนิธิสัมมาชีพมีภารกิจเชื่อมต่อภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างเศรษฐกิจและความแข็งแรงให้กับเศรษฐกิจชุมชน ฐานราก เพราะหากฐานรากมีความเข้มแข็ง จะช่วยให้ประเทศเติบโตอย่างแข็งแรง ยั่งยืน การจัดประกวดต้นแบบในด้านต่างๆ ก็ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา ยกระดับตนเอง ในวงกว้าง ทั้งผู้เข้าร่วมประกวดและผู้ที่นำต้นแบบไปศึกษาปรับใช้" นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ รางวัล "ต้นแบบสัมมาชีพ" ในปี 2566 จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ 1) รางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ ซึ่งคณะกรรมการมูลนิธิมีมติคัดเลือกให้ ดร.ชัยวัฒน์ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานกิตติมศักดิ์ บมจ.เบทาโกร และบริษัทในเครือ และประธานกรรมการบริษัท เบทาโกร โฮลดิ้ง จำกัด เป็นบุคคลต้นแบบสัมมาชีพประจำปีนี้ และนับเป็นคนที่ 9 ตั้งแต่มีการมอบรางวัลนี้ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา 2) รางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ 3) รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ และ 4) รางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ โดยทั้ง 3 รางวัลหลัง คณะกรรมการอยู่ระหว่างการพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
"ในปีนี้ มีผู้สมัครเข้าร่วมประกวดรางวัลต่างๆ จำนวนมาก รางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ มีผู้สมัครเข้าร่วมประกวด 51 ราย รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ 166 ราย ปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพมีผู้ส่งรายชื่อปราชญ์เข้าร่วม 99 ราย ซึ่งรางวัลวิสาหกิจชุมชนถือว่ามีผู้สมัครเข้าร่วมสูงสุดเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ สะท้อนถึงความสนใจต่อการเข้าร่วม" ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพกล่าว
สำหรับรางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ จะพิจารณามอบแก่บุคคลที่ได้รับการยอมรับหรือยกย่องจากสาธารณชนว่าเป็นผู้ที่มีคุณงามความดี บริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องบนความถูกต้องดีงาม คำนึงถึงความรับผิดชอบในการดูแลสิ่งแวดล้อม ตลอดจนพื้นที่หรือชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่สิ่งแวดล้อม
รางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ จะเป็นการคัดเลือกเอสเอ็มอีที่จะเป็นต้นแบบในการประกอบกิจการที่มีผลประกอบการดี มีธรรมาภิบาลควบคู่ไปกับการมีความรับผิดชอบต่อสังคมในพื้นที่ที่เอสเอ็มอีนั้นๆ ตั้งอยู่ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่เอสเอ็มอีรายอื่นๆ นำไปปฏิบัติตาม มีจำนวน 5 รางวัล
ส่วนรางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน โดยจะมอบแก่วิสาหกิจชุมชนที่เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการประกอบอาชีพของชุมชน มุ่งสร้างรายได้ สร้างอาชีพ เพื่อการสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น อันจะนำมาสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชน
สำหรับรางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ จะมีด้วยกัน 5 รางวัล แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ประเภทการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร ประเภทการบริการและการท่องเที่ยวโดยชุมชน ประเภทการเกษตร และประเภทการเงินและสวัสดิการชุมชน
ด้านรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพมีขึ้นเพื่อยกย่องผลงานของผู้ที่ริเริ่ม พัฒนา สร้างสรรค์งานที่ก่อให้เกิดคุณค่า หรือมูลค่าในอาชีพและกิจการอย่างยั่งยืน และผลงานดังกล่าวเป็นที่ประจักษ์และสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับท้องถิ่น หรือระดับประเทศ มีจำนวน 5 รางวัล
ปัจจุบัน มูลนิธิสัมมาชีพได้มอบรางวัลต่างๆ ไปแล้ว ดังนี้ รางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ 8 รางวัล รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ จำนวน 16 องค์กร รางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ จำนวน 14 ราย และรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ จำนวน 5 คน
ในปีนี้ งานมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพจะแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงเวลากลางวัน ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. จะเป็นการนำเสนอผลการถอดบทเรียนเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับรางวัลต้นแบบสัมมาชีพในปี 2566 ในหัวข้อ "Sammachiv Award ความสำเร็จและบทเรียนที่ควรส่งต่อ" รวมทั้งการแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือระหว่างวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี กับองค์กรภาคี ส่วนช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00-20.30 น. จะเป็นพิธีมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ ครั้งที่ 9
HTML::image(
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit