ชูแนวคิด "Travel with Responsibility in Thailand" ดึงต่างชาติเที่ยวไทยเชิงอนุรักษ์ พร้อมฟื้นฟูแนวประการังคืนความยั่งยืนสู่ท้องทะเลไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลัง จังหวัดภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และ บริษัท ซีแพค กรีน โซลูชั่น จำกัด เครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) จัดโครงการ "THE ONE FOR NATURE" ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์ ครั้งที่ 2 เพื่อรณรงค์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Responsible Tourism) ภายใต้ แบรนด์ Amazing Thailand เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใส่ใจต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ผ่านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในไทย โอกาสนี้ได้รับเกียรติจากนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและนายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมแถลงข่าวฯ ในวันที่ 23 ตุลาคม 2566 ณ ท่าเรือฉลอง จังหวัดภูเก็ต
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเปิดเผยถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการ "THE ONE FOR NATURE" ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์ ครั้งที่ 2 ว่า การกลับมาของโครงการ "THE ONE FOR NATURE" ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์ ครั้งที่ 2 นี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ททท.ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มคุณภาพให้เข้ามาเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยในรูปแบบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตามแนวคิด "Travel with Responsibility in Thailand" พร้อมสร้างจิตสำนึกให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ (Travel with Care) เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล อนุรักษ์ และรักษาสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ (Quality Leisure Destination) อย่างยั่งยืน
ช่วงเดือนสิงหาคม 2566 - กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ททท. ได้ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ผ่านกิจกรรมออนไลน์ช่องทาง www.tourismthailand.org/theonefornature และสื่อออนไลน์ทั่วโลก ซึ่งสามารถสร้างยอดการรับรู้ได้สูงถึง 10,369,360 คน-ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 เดือน พร้อมจัดกิจกรรม On Ground ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ผ่านกิจกรรมการคัดแยกขยะเพื่อให้สามารถนำขยะไปรีไซเคิล และนำกลับมาใช้ใหม่ ณ สถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้แก่ แหลมบาลีฮาย จังหวัดชลบุรี ถนนคนเดินวัวลายและถนนคนเดินประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ และถนนคนเดินหลาดใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ในครั้งนี้ คือ กิจกรรมปลูกปะการังจากขยะรีไซเคิล โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สนับสนุนดูแลพื้นที่จัดตั้งบ้านปะการัง และภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ซีแพค กรีน โซลูชั่น จำกัด ในธุรกิจซิเมนต์ เครือซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี สนับสนุนการผลิตบ้านปะการังที่มีการออกแบบเอกลักษณ์ความเป็นไทย รูปช้าง 6 เชือก จากนวัตกรรม 3D printing และซีเมนต์ที่ได้รับการรับรองว่าสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล ซึ่งสัตว์น้ำสามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์ตามระบบนิเวศทางธรรมชาติได้จริง รวมถึงได้รับความร่วมมือจากโรงแรมเดอะราชา และกลุ่มนักประดาน้ำมืออาชีพอาสาสมัคร ในนาม Racha master diver อาสาดำเนินการติดตั้งบ้านปะการังดังกล่าว ลงสู่ใต้ทะเลอ่าวสยาม เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ในครั้งนี้
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการเชิงรุกของ ททท. ผ่านโครงการ "THE ONE FOR NATURE" ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการช่วยพลิกฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาเติบโตอย่างยั่งยืน โดยอาศัยการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เข้ามาขับเคลื่อนเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีในการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายและแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ดังนั้น การปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สมบัติทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต และธรรมชาติ อย่างเหมาะสมในทุกภาคส่วนจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หากเราเดินหน้าเชิงรุกอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นอย่างต่อเนื่องทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทานให้ตระหนักถึงรูปแบบการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ไม่ใช่แค่ในจังหวัดภูเก็ต แต่กระจายสู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ อันจะเป็นผลดีต่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาพรวม
จังหวัดภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดดเด่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ วัฒนธรรมอาหารพื้นเมืองและเทศกาลประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวที่มีนัยยะสำคัญต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก จังหวัดภูเก็ตจึงได้ต่อยอดจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว อาทิ กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะ ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนจากความตื่นตัวต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วนในจังหวัดที่ได้นำแผนพัฒนาด้านต่าง ๆ เข้ามาใช้ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในพื้นที่ อาทิ การส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ Smart Bus รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เพื่อรับส่งนักท่องเที่ยวจากสนามบินไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารจัดการพื้นที่และความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ รวมทั้งการจัดโครงการ "THE ONE FOR NATURE" ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์ ของ ททท. ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ จังหวัดภูเก็ต ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป