ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลัก เดินแผนถอนการลงทุนในเรด ล็อบสเตอร์

17 Jan 2024

การตัดสินใจถอนการลงทุนเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ใหม่ของบริษัท ที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตในธุรกิจหลัก
โดยบันทึกเป็นรายการด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดครั้งเดียว ที่จำนวนราว 18,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากการด้อยค่าดังกล่าวงบดุลทางการเงิน (Balance Sheet) ของบริษัทยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนหนี้ต่อทุนที่ 0.84 เท่า

ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลัก เดินแผนถอนการลงทุนในเรด ล็อบสเตอร์

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก แจ้งเดินหน้าแผนถอนการลงทุนในเรด ล็อบสเตอร์

ไทยยูเนี่ยน เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรด ล็อบสเตอร์ ตั้งแต่ปี 2559 จากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในฐานะผู้ถือหุ้นส่วนน้อย และจากที่เคยแจ้งเมื่อปีที่ผ่านมาว่าได้ร่วมกันแต่งตั้งที่ปรึกษาทางธุรกิจชั้นนำเพื่อให้คำแนะนำในเชิงการปฏิบัติการและในด้านการเงิน เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดให้เรด ล็อบสเตอร์

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคอุตสาหกรรม อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบ และค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของเรด ล็อบสเตอร์ ทำให้มีผลต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และจากการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว คณะกรรมการบริษัทฯ มีความเห็นว่าธุรกิจเรด ล็อบสเตอร์ ที่มีความต้องการใช้เงินสูง ไม่สอดคล้องกับแผนการจัดสรรเงินลงทุนของบริษัทฯ ในฐานะผู้ลงทุน เราจึงตัดสินใจถอนการลงทุนในเรด ล็อบสเตอร์

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนของเรด ล็อบสเตอร์ จำนวน 665.8 ล้านบาท หรือ 19 ล้านเหรียญ ซึ่งในระหว่างที่บริษัทฯ ศึกษาช่องทางที่เป็นไปได้ในการถอนการลงทุนนี้ ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 นี้ บริษัทฯ บันทึกเป็นรายการด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดครั้งเดียว ที่จำนวนราว 18,500 ล้านบาท หรือประมาณ 530 ล้านเหรียญ

ทั้งนี้ หลังจากการบันทึกรายการด้อยค่าดังกล่าว ภาพรวมทางธุรกิจไทยยูเนี่ยนยังเติบโต มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และระดับหนี้ต่ำโดยมีอัตราส่วนหนี้ต่อทุนที่ 0.84 เท่า และเพื่อแสดงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินในวงเงินไม่เกิน 3,600 ล้านบาท หรือไม่เกิน 200 ล้านบาท บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสามารถในการทำกำไร และเพิ่มอัตรากำไรในทุกธุรกิจหลัก โดยบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการจัดทำแผนกลยุทธ์สำหรับปี 2573 ซึ่งจะให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจหลักคือ อาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋อง อาหารทะเลแช่แข็ง แช่เย็น และอาหารสัตว์เลี้ยง ที่จะสร้างความแข็งแกร่ง และทำกำไร พร้อมสร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในระยะยาวสำหรับผู้ถือหุ้น

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ไทยยูเนี่ยน www.thaiunion.com

HTML::image(