หัวใจหลักของการดูแลร่างกายให้มีสุขภาพดีตามฉบับแพทย์แผนจีน คือ การปรับสมดุลอินหยางของร่างกายให้สมดุล ปรับสมดุลการไหลเวียนเลือด และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนี้1. ทานอาหารอย่างสมดุลอาหารเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ เราจึงควรเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมตามลักษณะของร่างกายและเหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา - ฤดูกาล เช่น ผู้ที่มีพื้นฐานร่างกายอุ่นร้อน เหมาะแก่การรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น ตัวอย่างเช่น ผักและผลไม้ใบเขียว ผู้ที่มีพื้นฐานร่างกายเย็น เหมาะแก่การรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์อุ่นร้อน เช่น ขิง อบเชย พริกไทยดำ เนื่องจากสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกันและอาจมีอาการเจ็บป่วยแตกต่างกัน การรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายจะช่วยให้ร่างกายสมดุล แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย2. การพักผ่อนที่เหมาะสมเวลาเข้านอนที่เหมาะสม คือ ควรเข้านอนก่อนเวลา 22.00 น. และควรตื่นในช่วงเวลา 06.00 น. - 07.00 น. ตามหลักนาฬิกาชีวิตของการแพทย์แผนจีน กล่าวว่า ช่วงเวลา 01.00 น. - 04.00 น. เป็นเวลาของอวัยวะตับและปอด เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เลือดไหลกลับเข้าสู่ตับ เกิดการกำจัดสารพิษและของเสียในร่างกาย การนอนหลับเพื่อบำรุงสุขภาพ คือ ช่วงกลางวัน เวลา 11.00 น. - 13.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการงีบหลับสั้น ๆ ประมาณ 20 นาที จะช่วยบำรุงหยางชี่ แนะนำให้ทำควบคู่กับท่าบริหารกาย โดยการนำมือสองข้างวางที่ใต้สะดือ 3 ชุ่น อมยิ้มและให้ปลายลิ้นแตะเพดานปาก3. กายบริหารการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็น การรำไทเก๊ก ชี่กง หรือการเดิน จะทำให้เกิดประโยชน์หลาย ๆ ด้าน เช่น ทำให้ชี่และเลือดไหลเวียนได้สะดวก อวัยวะภายในร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น4.การรับประทานยาจีนการรับประทานยาจีนที่ถูกต้อง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตประจำวันของเรา โดยยาจีนนั้นจะช่วยปรับสมดุลอินหยาง ปรับการทำงานของอวัยวะในร่างกาย บำรุงชี่และเลือด5. ไม่ตรากตรำทำงานหนักเกินไปการตรากตรำทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้อินหยางเสื่อมพร่อง ชี่และเลือดไม่เพียงพอ ดังนั้น เราควรจัดเวลาทำงานและพักผ่อนให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการนอนดึกและไม่ตรากตรำทำงานหนักเกินไปตัวอย่างกรณีศึกษาเพศ:
ชาย
อายุ 45 ปี
อาการสำคัญ: เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน: ผู้ป่วยใช้ชีวิตช่วงที่ผ่านมาด้วยการตรากตรำทำงานหนักตลอดเวลา อีกทั้งมีความกดดันสูง บ่อยครั้งอดหลับอดนอน ทานอาหารจานด่วนที่มีรสหวานและเค็มมาก ขาดการออกกำลังกาย และนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลให้สุขภาพแย่ลง กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานขั้นตอนการรักษา: ผู้ป่วยนอกจากได้รับการรักษาแบบการวินิจฉัยจำแนกกลุ่มอาการของโรคเพื่อกำหนดวิธีการรักษาตามวิธีการรักษาของแพทย์แผนจีนแล้ว ผู้ป่วยยังได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพด้วย หลังจากผู้ป่วยได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และติดตามผลพบว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในเรื่องการดูแลสุขภาพต่อไปดังนี้1. ทานอาหารอย่างสมดุลเน้นการรับประทานอาหารที่หลากหลายและหลีกเลี่ยงการรับประทานที่อิ่มมากเกินไป อีกทั้งเน้นการบริโภคผัก ผลไม้ และอาหารธัญพืชที่ไม่ขัดสี รวมถึงลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไอโอดีนสูง และอาหารที่มีไขมันสูง2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแนะนำให้ออกกำลังกายทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น การเดิน การวิ่งเหยาะ ๆ ว่ายน้ำ และแนะนำให้ผู้ป่วยลองออกกำลังกายเพื่อความบันเทิง เช่น โยคะหรือไทเก๊ก ช่วยผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้พยายามเดินร้อยก้าวหลังอาหารกลางวันเพื่อมีชีวิตอยู่ถึง 99 ปี ซึ่งเป็นวิธีที่แพทย์แผนจีนโบราณสอนเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ พักหลับตาหลังอาหารกลางวัน วางปลายลิ้นแตะบนเพดานปากพร้อมกับอมยิ้ม วางมือประสานกันเบา ๆ บริเวณตรงกลางใต้สะดือ 3 ชุ่น โดยผู้ชายให้นำมือขวาทับมือซ้าย ผู้หญิงให้นำมือซ้ายทับมือขวา ผ่อนลมหายใจเป็นจังหวะ เป็นเวลา 20 นาที ซึ่งท่ากายบริหารนี้สามารถช่วยบำรุงหัวใจและเสริมหยางชี่ได้อีกด้วย3. ปรับการนอนให้เหมาะสมควรนอนหลับไม่น้อยกว่า 7-8 ชั่วโมง ปรับเวลาการนอนโดยเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดิมทุกวัน ลองฝึกนั่งสมาธิหรือฝึกลมหายใจเป็นจังหวะเพื่อผ่อนคลายจิตใจและช่วยให้หลับลึกได้มากขึ้น4. ปรับสภาวะทางอารมณ์
แนะนำให้ผู้ป่วยเรียนรู้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การทำสมาธิ สร้างความสัมพันธ์กับบุคคล ครอบครัว หรือเพื่อนฝูง เพื่อแบ่งปันความรู้สึกภายในและลดแรงกดดันทางจิตใจสอบถามข้อมูล หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพได้ที่ "ทีมหมอจีน" คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว โทร 02 223 1111 เปิดทำการทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08:00 - 16:00 น.LINE OA: @huachiewtcmFacebook: หัวเฉียวแพทย์แผนจีนกรุงเทพ Huachiew TCM ClinicWebsite: www.huachiewtcm.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit