"งูสวัด"..โรคอันตรายในผู้สูงอายุ
มีใครรู้ไหม?..ว่า "งูสวัด" เป็นโรคที่พบได้บ่อยขึ้นตามอายุ และอาการปวดรวมถึงภาวะแทรกซ้อนในผู้สูงอายุก็มักจะรุนแรงและมีอาการยาวนานกว่าคนทั่วไปอีกด้วย...
"งูสวัด" เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ (Varicella Zoster Virus : VZV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส เมื่อร่างกายได้รับเชื้อชนิดนี้มาครั้งแรก จะก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใส เมื่อหายจากอีสุกอีใสแล้ว เชื้อไวรัสบางส่วนจะไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ปมประสาท เมื่อเราอายุมากขึ้น หรือร่างกายอ่อนแอลง เชื้อไวรัสจะออกมาจากปมประสาทและแสดงอาการของโรคงูสวัดออกมา
อาการของงูสวัดมี 3 ระยะ คือ
โดยผู้ที่มีอาการของโรคงูสวัดควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมเพื่อให้หายจากโรคโดยเร็ว ซึ่งผื่นที่เกิดจากโรคงูสวัดสามารถหายเองได้ภายในสองสัปดาห์ แต่ผู้สูงอายุบางรายอาจมีอาการปวดตามแนวเส้นประสาทเรื้อรัง ซึ่งอาจปวดได้อีก 3-12 เดือน
ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคงูสวัดยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง ยิ่งอายุมากยิ่งเป็นรุนแรงและนานขึ้น เช่น อาการปวดตามแนวเส้นประสาทเรื้อรัง มักจะมีอาการปวดลึกๆ ปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา อาจปวดแม้ถูกสัมผัสเพียงเบาๆ หรือหากเกิดขึ้นบริเวณดวงตา ผู้สูงอายุบางท่านอาจมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงจนอาจทำให้ตาบอดได้ และยิ่งไปกว่านั้นหากเชื้องูสวัดแพร่กระจายออกนอกแนวเส้นประสาท เชื้อไวรัสอาจกระจายเข้าสู่สมองและอวัยวะภายในอื่นๆ เช่น ตับ ปอด หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้
โรคงูสวัด เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้โดยการรับการฉีดวัคซีนโรคงูสวัดเพื่อลดโอกาสการเกิดโรค ทั้งยังช่วยลดความรุนแรง ลดความปวด และช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคงูสวัด แนะนำให้ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนป้องกันและควรฉีดก่อนอายุ 60 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันดียิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อโรคงูสวัดได้
นอกจากนี้การดูแลรักษาสุขภาพให้ดีด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรค ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคงูสวัดได้...
งูสวัด ภัยเงียบในผู้สูงอายุ คลิกอ่าน >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1746
สายด่วนสุขภาพโทร. 0 2743 9999 ต่อ 2999Line Official : @ramhospital
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit