บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ "SGP" หนึ่งในผู้ประกอบการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีรายใหญ่ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เผยชำระคืนหุ้นกู้มูลค่า 2,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอน 7 ธันวาคม 2566 ครบถ้วน พร้อมประกาศดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ชุดใหม่ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 2 รุ่น เสนอขายระหว่างวันที่ 14-15 และ 18 ธันวาคม 2566 โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "ลบ" จากทริสเรทติ้งเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 สะท้อนศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจที่มีความมั่นคง
นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2561 อายุ 5 ปี วงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยของหุ้นกู้ชุดดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ บริษัทฯ พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 2 ชุด ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) โดยมีอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดดังนี้ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.95% ต่อปี และ หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี 2 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.15% ต่อปี
กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายระหว่างวันที่ 14-15 และ 18 ธันวาคม 2566 นี้ ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 5 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้ไปทดแทนเงินของบริษัทฯ ที่ได้สำรองจ่ายชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในเดือนธันวาคม 2566 และชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคม 2567
หุ้นกู้ชุดใหม่นี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ "ระดับลงทุน" ที่ "BBB+" เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และมีแนวโน้มอันดับเครดิต "ลบ" จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางของบริษัทฯ และตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทฯในฐานะเป็นผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG (Liquefied Petroleum Gas) รายใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศไทย
นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย ขนส่ง และให้บริการเป็นจำนวนเงิน 68,037.73 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2565 เนื่องจากราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกเฉลี่ย 9 เดือนของปี 2566 เท่ากับ 563.89 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ราคาก๊าซ LPG เฉลี่ยเท่ากับ 776.94 เหรียญสหรัฐ/ตัน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมีผลกำไรขั้นต้นสำหรับงวดเก้าเดือนจำนวนเงิน 1,936.30 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2565 โดยเป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนสินค้าที่มีไว้เพื่อขายนั้น มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกที่ประกาศอ้างอิงราคาขาย ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิในงวดเก้าเดือน ปี 2566 อยู่ที่ 259.67 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และมีผลใช้บังคับแล้ว สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมผ่านสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง ดังนี้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit