"...การดำเนินงานเป็นระยะเวลา 60 ปี นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับคน องค์กร และในหลายๆ เรื่อง เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นโอกาสที่สำคัญ วว. ถือเป็นองค์กรที่มีจุดเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานที่ยั่งยืน หากองค์กรใดมีการฝ่าฟันมาครบ 60 ปี จะเป็นองค์กรที่มีประสบการณ์ ผ่านบทเรียนต่างๆ
ทั้งนี้ วว. เป็นสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ แห่งแรกของไทย จากอดีตถึงปัจจุบัน วว. ได้มีการขับเคลื่อนด้านวิทยาศาสตร์มาอย่างต่อเนื่องและได้รับการยอมรับจากหน่วยงานทั้งภายในและต่างประเทศ
วว. อยู่ถูกที่ถูกเวลา มีเป้าหมายการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยเฉพาะด้านชีวภาพ ความหลากหลายทางพันธุกรรม นอกจากนั้นยังมีความสอดคล้องกับกระแสของโลกที่มุ่งไปยังด้านสิ่งแวดล้อม การคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ วว. ยังได้รางวัลมากมายในหลากหลายสาขาทั้งด้านสังคมและการบริหารจัดการ ขอชื่นชมการดำเนินงานของ วว. ซึ่งจะเป็นต้นไทรใหญ่ที่หยั่งรากลึกและเติบโตอย่างยั่งยืน จะเป็นต้นไทรที่ให้ความร่มเย็น และเป็นองค์กรที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนให้การพัฒนาวิทยาศาสตร์ของประเทศก้าวต่อไป..."
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และประธานคณะกรรมการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้กล่าวข้อความข้างต้นภายหลังพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่บุคลากร เนื่องใน วันคล้ายวันสถาปนา วว. ครบรอบ 60 ปี "Proud of TISTR Step Up Together" เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 5 อาคาร Admin ชั้น 5 วว. เทคโนธานี คลองห้า จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้ วว. มีทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจนในด้านการวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อนำองค์ความรู้และนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ ในการสร้างคน แก้ไขความยากจน และเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศแข็งแกร่ง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และดำเนินการพัฒนาประเทศให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก
โดยในปี 2566 วว. สนองนโยบายการขับเคลื่อนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
หลายทศวรรษที่ผ่านมา วว. เพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคอุตสาหกรรมและ SMEs ตลอดจนวิสาหกิจชุมชน โดยได้ขยายขอบข่ายงานวิจัยและบริการ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรม New S-Curve ของรัฐบาล ตลอดจนการส่งเสริมงานวิจัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นแนวทางที่สำคัญในกระแสโลกปัจจุบัน และจากผลงานที่ผ่านมา วว. ได้รับรางวัลดีเด่นในหลายด้าน อันเป็นเครื่องหมายรับรองถึงผลงานเชิงคุณภาพ ผลจากความมุ่งมั่นและตั้งใจ ตลอด 60 ปี ของ วว. ส่งผลให้การขับเคลื่อนงานบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูง และได้รับการรับรองมาตรฐานสากล รวมทั้งยกระดับรายได้ชุมชนในกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ช่วยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่สมดุลกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน
"...ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราทุกคนจะต้องปรับตัว ปรับวิถีการใช้ชีวิตและการทำงานให้คุ้นเคย และ วว. จะต้องเร่งก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์งานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ขณะนี้ วว. ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Top ten performance ของ 51 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจไทย เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราชาว วว. ในโอกาสครบรอบคล้ายวันสถาปนา 60 ปี ต่อจากนี้ไป เราจะช่วยกันทำให้ วว. เติบโตต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด... วว. JUMP เพื่อให้ วว. และประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรามีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป..."
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวในโอกาสรายงานความสำเร็จของการดำเนินงานครบรอบ 60 ปี "Proud of TISTR Step Up Together"
ตลอดระยะเวลา 60 ปี ในการดำเนินงานจวบปัจจุบัน วว. มีผลงานที่เป็นรูปธรรม ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ดังนี้
นวัตกรรมการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม (ICPIM) คลังจุลินทรีย์ ศูนย์ทดสอบมาตรฐานระบบขนส่งทางราง รวมทั้งโรงงานในภูมิภาค เช่น ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยียืดอายุลำไย (ลำพูน) ศูนย์การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตภาพและมูลค่าพืชไร่ชุมชน (สับปะรด) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาคาร SMEs ที่ได้รับสิทธิ BOI รวมทั้งมีหน่วยงานสถานีวิจัยในภูมิภาค เช่น สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช สถานีวิจัยลำตะคอง จ.นครราชสีมา
ในปีที่ 60 และก้าวต่อไปอย่างมั่นคงของ วว. นั้น เต็มเปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์ของผู้บริหาร บุคลากร ในองค์กร ที่พร้อมผลิตผลงานวิจัย บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีในเชิงสังคมและเชิงพาณิชย์ ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยเราให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน อยู่ในอันดับแถวหน้าในเวทีนานาชาติต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit