คนวัยทำงานส่วนใหญ่ร่างกายแข็งแรง จึงทำให้ละเลยการใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ให้ความสำคัญกับการทำงาน ใช้ชีวิตเร่งรีบ ทานอาหารไม่มีประโยชน์ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายอย่างและยังทำให้สุขภาพแย่ลง
การที่สุขภาพแย่ลงหรือสุขภาพไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าเราอยู่ในสภาพที่เจ็บไข้ได้ป่วยเท่านั้น แต่ร่างกายจะแสดงออกมาในหลากหลายรูปแบบ ทำให้เราอาจคิดไม่ถึงว่าขณะนี้สุขภาพแย่แล้ว ดังนั้นเราจึงควรหันมาใส่ใจกับสัญญาณเตือนจากร่างกายสักหน่อย เพื่อที่จะได้เตือนให้เราแก้ไขได้ทันเวลา โดยอาการที่สามารถสังเกตได้ว่าสุขภาพของเราเริ่มแย่ลง เช่น
- นอนหลับยากบ่อยๆ หรือนอนไม่หลับต่อเนื่องกันหลายคืน อาการเช่นนี้คล้ายคนเป็นเบาหวาน
- ผิวพรรณไม่ดี มีริ้วรอย ผิวหยาบกร้าน มักเป็นกระหรือจุดด่างดำง่าย เป็นผดผื่นบ่อย ผมร่วง เพราะร่างกายขาดสารอาหารจำพวกวิตามินอี ขาดไบโอติน
- ปวดหัวบ่อยๆ การนอนไม่พอก็อาจส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะได้ อย่าได้นิ่งนอนใจควรสังเกตตัวเองว่าปวดบ่อยหรือไม่ มีอาการข้างเคียงอื่นๆหรือเปล่า เช่น หน้ามืด ตาลาย อาเจียน อาการปวดศีรษะนี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิตได้หลายโรค เช่น โรคหลอดเลือดสมองโรคเนื้องอกในสมอง
- มีอาการตาเหลือง ตัวเหลือง อาจเป็นโรคตับอักเสบหรือดีซ่าน ต้องรู้จักสังเกตและรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้ทัน
- ท้องเสียบ่อย หรือท้องผูกบ่อยระบบขับถ่ายแปรปรวน กินอะไรนิดหน่อยก็ท้องไม่ดี กินอาหารตามปกติแต่ตอนเช้าไม่ขับถ่าย ถ้ามีอาการอย่างนี้บ่อยๆอย่าคิดว่าธรรมดา เพราะคุณอาจป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้หรือโรคไตได้
- เบื่ออาหาร อาจเป็นสัญญาณโรคตับ วัณโรค และอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยไม่สบายได้เพราะร่างกายอ่อนแอและไม่มีภูมิต้านทาน
- ปวดหลังปวดเอว ปวดต้นคอ อาจมีสาเหตุมาจากการนั่งทำงานที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ก็หักโหมกับการทำงานมากเกินไปจนกล้ามเนื้อล้า
- น้ำหนักเพิ่มหรือลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ สัญญาณนี้อาจบอกถึงโรคต่างๆได้ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับไต หรือโรคมะเร็ง
- เป็นเหน็บชาหรือตะคริวบ่อยๆ อาจขาดวิตามินบี 1 จึงควรกินเต้าหู้ รำข้าว ตับ และข้าวซ้อมมือเป็นประจำ
- เหนื่อยง่าย ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อยแล้ว แสดงว่าไม่ได้เคยออกกำลังกายเลย หรือออกกำลังกายน้อย
- สีของปัสสาวะเป็นสีเหลืองจัด เป็นไปได้ว่าดื่มน้ำน้อยเกินไป หรืออาจเป็นสัญญาณบอกอาการของโรคดีซ่าน แต่ถ้าสีเหลืองจัดเข้มข้นจนเป็นสีกาแฟแสดงว่ากินยาบางอย่างมากเกินไป หรืออาจเป็นวัณโรคได้
- ระคายคอเจ็บคอหรือไอบ่อยๆ อาจมีปัญหาที่ระบบหายใจ อาจเป็นภูมิแพ้หรือกำลังเป็นหวัด
- อ่อนเพลียง่าย ไม่มีกำลังวังชา มือไม้สั่นอารมณ์แปรปรวนง่ายอาจเป็นไปได้ว่าต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
- ขี้หลง ขี้ลืมบ่อยๆ สมองและระบบประสาทไม่ดี อาจเพราะขาดสารอาหารบำรุงสมอง
การหมั่นสังเกตและไม่นิ่งนอนใจในสิ่งผิดปกติเล็กน้อยต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าเรารู้ตัวแต่เนิ่นๆในขณะที่อาการและความรุนแรงของโรคยังไม่มาก ก็จะทำให้รักษาได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายน้อย แต่ถ้าปล่อยให้เป็นมากๆและโรคลุกลามแล้วจึงไปพบแพทย์การรักษาก็จะยุ่งยาก เสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย...ดังนั้นอย่าลืมสังเกตและดูแลสุขภาพให้ดีกันด้วยนะครับ