มินเทล บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านข้อมูลการตลาด เปิดเผยข้อมูลสำคัญจากงานวิจัยตลาดความงามสำหรับผู้ชาย โดยเน้นย้ำบทบาทของกลิ่นหอมในตลาดผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้ชายที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้บริโภคทุกช่วงอายุในประเทศไทย
งานวิจัยจากมินเทลชี้ว่าตลาดความงามสำหรับผู้ชายในประเทศไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ชายเริ่มเปิดใจให้กับผลิตภัณฑ์ความงามมากขึ้น การเติบโตนี้เป็นผลมาจากความนิยมด้านการดูแลตัวเองที่เพิ่มขึ้นและการปรับเปลี่ยนมุมมองด้านบทบาททางเพศ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังมีการเติบโตมากที่สุด ฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ระดับโลกของมินเทลชี้ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังมีสัดส่วนมากที่สุดในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลตัวเองสำหรับผู้ชายในช่วงปี 2560 - 2565 โดยมีสัดส่วนเท่ากับ 22% ของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด ตามด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองอื่น ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (20%) และ ผลิตภัณฑ์สบู่และครีมอาบน้ำ (16%)
งานวิจัยจากมินเทลยังเปิดเผยอีกว่า ความชอบเกี่ยวกับกลิ่นหอมเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่สำคัญในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้ชาย อย่างไรก็ตาม ความชอบในกลิ่นของในแต่ละกลุ่มอายุชี้ให้เห็นเทรนด์อื่น ๆ ที่แตกต่างกัน
ผู้ชายเจน X มีแนวโน้มที่จะเลือกกลิ่นเฉพาะสำหรับแต่ละเพศ โดยผู้บริโภคมากกว่าครึ่ง (54%) บอกว่าพวกเขาชอบซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่มีการนำเสนอกลิ่นเฉพาะสำหรับผู้ชาย แต่พวกเขาก็ต้องการกลิ่นที่หลากหลายมากขึ้นเช่นกัน ผู้บริโภคกว่า 57% บอกว่าพวกเขามักสนใจผลิตภัณฑ์ที่มีตัวเลือกกลิ่นที่แตกต่าง
ผู้บริโภคเจน X มากกว่า 9 ใน 10 คน (91%) กำลังใช้ผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่น และกลิ่นที่ติดทนนานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อ (56%) คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการลดเหงื่อ (53%) และกลิ่นกาย (50%) และคุณสมบัติการต้านแบคทีเรีย (38%) ก็เป็นปัจจัยในการเลือกซื้ออันดับต้น ๆ เช่นกัน ผู้ชายเจน X มักพบเจอปัญหาอาการคัน เหงื่อออกเยอะ และผดผื่นมากกว่ากลุ่มผู้บริโภคอื่น ผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นจึงมีความนิยมสูง
กลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจต่อผลิตภัณฑ์ความงามมากที่สุดคือกลุ่มมินเลนเนียล โดยเป็นกลุ่มที่จะมีส่วนทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้ชายเติบโตได้มากที่สุด ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีสัดส่วนการใช้น้ำหอมในชีวิตประจำวันสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น โดยผู้บริโภคจำนวนเกือบครึ่ง (48%) ให้ความสนใจกับกลิ่นหอมเมื่อพวกเขาต้องการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และมากกว่าครึ่ง (53%) ใช้น้ำหอมระงับกลิ่นกายอย่างน้อยหนึ่งครั้งในแต่ละวัน แบรนด์สามารถใช้โอกาสจากความนิยมนี้ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายมินเลนเนียลด้วยตัวเลือกกลิ่นที่มีอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามอื่น ๆ เช่น โลชั่นทาผิว
ผู้บริโภคเจน Z นั้นเป็นกลุ่มที่มีความสนใจต่อกลิ่นหอมน้อยที่สุด ความไวของผิวและปัญหาอื่น ๆ เช่น ผิวแห้งและสิวทำให้ผู้บริโภคเจน Z หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม ผู้บริโภคเจน Z เพียง 56% มีการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายในชีวิตประจำวัน และผู้บริโภคจำนวนประมาณ 1 ใน 5 คน (21%) ไม่ใช้น้ำหอม ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดหากเทียบกับจำนวนผู้บริโภคในทุกกลุ่มที่ไม่ใช้น้ำหอม (16%)
แม้พวกเขาจะมีความระมัดระวังในการเลือกกลิ่น มินเทลพบว่าผู้ชายเจน Z ส่วนมากเห็นด้วยว่าพวกเขาต้องการลองตัวเลือกกลิ่นหอมอื่น ๆ (41%) ข้อค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเจน Z จะเปิดรับกลิ่นที่ความหลากหลายของกลิ่นมากกว่ากลิ่นที่มีในตลาด กลิ่นที่ไม่จำกัดเพศ และกลิ่นสำหรับผู้หญิง
คุณ สิริณา ปุปผชาติ นักวิเคราะห์ตลาดความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย มินเทล รีพอร์ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า "รายงานของเราพบว่าผู้ชายในทุกกลุ่มอายุจะให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาเพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปี ข้างหน้า และพวกเขาจะมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถค้นหาตัวเองและแสดงออกได้มากขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่กำลังเติบโตกลุ่มนี้เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น และจะทำให้เกิดโอกาสมากมายในช่วง 5 ปี ข้างหน้า"
"การมีกลิ่นตัวหอมเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับชายไทย เพราะกลิ่นหอมจะสะท้อนถึงการดูแลตัวเองและช่วยแสดงถึงตัวตนของแต่ละคน โดยชายไทยจำนวนมากกว่า 8 ใน 10 คน (84%) ใช้น้ำหอม แสดงให้เห็นว่ากลิ่นหอมเป็นคุณสมบัติสำคัญที่แบรนด์สามารถพัฒนาได้ตามกลุ่มเป้าหมาย การทำความเข้าใจว่าผู้บริโภคในช่วงอายุต่าง ๆ กำลังมองหาผลิตภัณฑ์แบบใด และอะไรคือเหตุผลภายใต้ความต้องการเหล่านี้ จะทำให้แบรนด์สามารถยึดตำแหน่งดี ๆ สำหรับการแข่งขันในตลาดที่กำลังเติบโต ตัวอย่างเช่น การนำเสนอคุณสมบัติบนบรรจุภัณฑ์ เช่น ไม่ระคายเคือง หรือ ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ สามารถช่วยให้แบรนด์เอาชนะความลังเลเกี่ยวกับผิวบอบบางของผู้บริโภคเจน Z
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit