ทรินา โซลาร์ เปิดตัวเซลล์แสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานแบบบูรณาการในงาน SNEC โดยมีโมดูลชนิดเอ็นไทป์เป็นตัวชูโรง

01 Jun 2023

ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) นำเสนอความสามารถทางเทคนิคพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ในการประชุมและนิทรรศการว่าด้วยการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานอัจฉริยะนานาชาติ (International Photovoltaic Power Generation and Smart Energy Conference & Exhibition หรือ SNEC PV Power Expo) ครั้งที่ 16 ณ ศูนย์นิทรรศการนานาชาติเซี่ยงไฮ้แห่งใหม่ (SNIEC) ระหว่างวันที่ 23-26 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ทรินา โซลาร์ เปิดตัวเซลล์แสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานแบบบูรณาการในงาน SNEC โดยมีโมดูลชนิดเอ็นไทป์เป็นตัวชูโรง

ภายในงานนี้ ทรินา โซลาร์ ได้เปิดตัวโมดูลเวอร์เท็กซ์ (Vertex) ชนิดเอ็นไทป์ (n-type) ขนาด 210 มม. รุ่นใหม่ ประกอบด้วยขนาด 695 วัตต์ 605 วัตต์ และ 450 วัตต์, โมดูลเวอร์เท็กซ์ชนิดพีไทป์ (p-type) ขนาด 670 วัตต์, ระบบโซลาร์เซลล์ตามแสงอาทิตย์ ทรินาแทรกเกอร์ (TrinaTracker) รุ่นแวนการ์ด 2พี (Vanguard 2P), ระบบกักเก็บพลังงาน และโซลูชันพลังงานอัจฉริยะครบวงจรอื่น ๆ โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะเพื่ออนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

นอกจากนี้ ทรินา โซลาร์ ได้เปิดตัวเทคโนโลยีโมดูลไอ-ท็อปคอน (i-TOPCon) ชนิดเอ็นไทป์สู่สายตาทั่วโลก พร้อมกับจัดแสดงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเฮเทอโรจังก์ชัน (HJT) และไอบีซี (iBC) ที่ล้ำสมัย โดยบูธของทรินาดึงดูดผู้เข้าชมงานหลายพันคนทั้งจากยุโรป อเมริกาเหนือ ลาตินอเมริกา และเอเชียแปซิฟิก

ภายในงานยังมีการเปิดตัวโมดูลซีรีส์เวอร์เท็กซ์ เอ็น (Vertex N) เป็นครั้งแรก พร้อมกับสาธิตการติดตั้งโมดูลเวอร์เท็กซ์ชนิดเอ็นไทป์ขนาด 605 วัตต์เข้ากับทรินาแทรกเกอร์ แวนการ์ด 2พี ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากในงานนี้ นอกจากนั้นยังมีโมดูลชนิดเอ็นไทป์ขนาด 210 มม.ที่ปรับแต่งให้ทำงานได้ในสภาพการใช้งานที่หลากหลาย โดยมีต้นทุนอุปกรณ์ประกอบระบบ (BOS) และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย (LCOE) ที่ต่ำลง เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า

ทรินา โซลาร์ เปิดตัวเทคโนโลยีโมดูลไอ-ท็อปคอน ชนิดเอ็นไทป์

ในฐานะผู้บุกเบิกเทคโนโลยีโมดูลชนิดเอ็นไทป์ ทรินา โซลาร์ ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่และปรับปรุงผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง และได้เปิดตัวเทคโนโลยีโมดูลไอ-ท็อปคอน ชนิดเอ็นไทป์ สู่สายตาทั่วโลกในงานนี้ โดยเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้ประสิทธิภาพของเซลล์สูงถึง 26% ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าของโมดูลพุ่งสูงกว่า 700 วัตต์ และผลิตภัณฑ์นี้จะเริ่มผลิตปริมาณมากในปีหน้า

ทรินา โซลาร์ ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมและขยายความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในด้านต่าง ๆ เช่น iBC และ HJT อย่างต่อเนื่อง และภายในงานนี้ บริษัทได้เปิดตัวโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ HJT ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุดกว่า 730 วัตต์ และประสิทธิภาพ 23.5% ซึ่งสามารถเพิ่มการผลิตไฟฟ้าได้ราว 4-8% นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีเอสเอ็มบีบี (SMBB) และเทคโนโลยีการห่อหุ้มความหนาแน่นสูง ซึ่งทำให้โมดูลไม่สูญเสียกำลังและปล่อยคาร์บอนต่ำเป็นพิเศษ โดยต่ำกว่าเซลล์แสงอาทิตย์แบบ PERC ถึง 30% นอกจากนั้นยังมีการเปิดตัวโมดูล iBC ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุดกว่า 480 วัตต์ และประสิทธิภาพสูงสุด 24% โมดูลนี้วางหน้าสัมผัสไว้ด้านหลังของเซลล์ทั้งหมดและมีการเคลือบผิวแบบพาสซิเวชันเต็มรูปแบบ โดยไม่มีการทอดเงาด้านหน้า จึงมีรูปลักษณ์ที่สวยงามสมบูรณ์แบบพร้อมมอบความสุนทรีย์ขั้นสูงสุดให้แก่ลูกค้า

ทรินา สตอเรจ ชูผลิตภัณฑ์เอเลเมนตา รับกระแสการบูรณาการเซลล์แสงอาทิตย์เข้ากับระบบกักเก็บพลังงาน

ทรินา สตอเรจ (Trina Storage) นำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นนำภายในงาน โดยมุ่งเน้นไปที่การบูรณาการเซลล์แสงอาทิตย์เข้ากับระบบกักเก็บพลังงาน อาทิ เซลล์ 306Ah ที่มีวัฏจักรชีวิตมากกว่า 12,000 รอบ รวมถึงระบบกักเก็บพลังงานแบบระบายความร้อนด้วยของเหลว เอเลเมนตา (Elementa) ที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 10,000 รอบ และผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานสำหรับที่อยู่อาศัย รวมถึงระบบแปลงไฟ

นอกจากนี้ ทรินายังเปิดตัวโซลูชันแห่งอนาคตสำหรับการบูรณาการเซลล์แสงอาทิตย์เข้ากับระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของเทคโนโลยีที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอุณหภูมิสูงโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ ขณะเดียวกัน ทรินา โซลาร์ กำลังเดินหน้าพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานที่มีศักยภาพสูง โดยอาศัยความได้เปรียบทางเทคโนโลยี รวมถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์

ทรินาแทรกเกอร์ อัปเกรดระบบโซลาร์เซลล์ตามแสงอาทิตย์ รองรับสภาพการใช้งานที่ซับซ้อนขึ้น

ระบบโซลาร์เซลล์ตามแสงอาทิตย์รุ่นใหม่ แวนการ์ด 2พี ซึ่งใช้ระบบควบคุมมอเตอร์หลายตัว มาพร้อมความปลอดภัยกว่า เชื่อถือได้มากกว่า และติดตั้งได้ง่ายกว่ากลไกแบบเดิม โดยสามารถปรับให้เข้ากับสภาพการใช้งานที่ซับซ้อนขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนของลูกค้า ยกตัวอย่างเช่นในทะเลทรายและถิ่นทุรกันดาร แวนการ์ด 2พี สามารถทำงานได้อย่างเสถียรเป็นเวลา 1,200 ชั่วโมง ในอุณหภูมิต่ำสุด -30 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ พอลิเมอร์คอมโพสิต POM ที่ใช้ในตลับลูกปืนเม็ดโค้งยังทนต่อการสึกหรอและมีความแข็งแกร่งสูง ส่งผลให้มีขีดจำกัดความล้าสูงถึง 25 ปี สำหรับวัสดุภายนอกที่ใช้ในการผลิตแวนการ์ด 2พี ก็ได้รับการควบคุมคุณภาพอย่างดี โดยผ่านการทดสอบความทนละอองน้ำเกลือ (salt spray) และการกัดกร่อนต่อสภาวะแวดล้อมแบบหลากหลาย (cyclic corrosion) จึงสร้างความมั่นใจว่าวัสดุเหล่านี้ทนต่อการกัดกร่อนในพื้นโคลนและพื้นที่ชายฝั่งทะเล รวมถึงมีระดับการกันน้ำและกันฝุ่นตั้งแต่ IP65 ขึ้นไป

ความน่าเชื่อถือของโมดูลได้รับการยืนยันโดยหน่วยงานภายนอก

ทรินา โซลาร์ ได้รับความไว้วางใจและการยอมรับจากสถาบันระหว่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงซีเอสจี (CSG), ยูพีดี (EUPD), อาร์อีทีซี (RETC) และพีเวล (PVEL) อันเป็นผลมาจากความน่าเชื่อถือของโมดูล

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2089508/image_805511_34448553.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2089509/image_805511_34448643.jpg

HTML::image(