สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จัดกิจกรรมเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2566 เพิ่มอัตราเร่งของการเปลี่ยนแปลง ด้วยความร่วมมือบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน สอดรับนโยบายขององค์การสหประชาชาติ ที่กำหนดประเด็นสำคัญด้านน้ำ ประจำปี 2566 "Accelerating Change" หรือ "เร่งการเปลี่ยนแปลง" และรณรงค์ให้ประเทศสมาชิก "Be the change you want to see in the world" หรือ "ร่วมกันเปลี่ยนแปลง สิ่งที่คุณอยากเห็นในโลกใบนี้"
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการจัดกิจกรรม "ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ" เนื่องในวันน้ำโลกประจำปี 2566 ณ ห้องแคทลียา โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารกับทุกภาคส่วนให้ร่วมกันเร่งการเปลี่ยนแปลงผ่านสารของนายกรัฐมนตรี ในวันน้ำโลก 22 มีนาคม 2566 และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างความตระหนักและความร่วมมือ เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และยกระดับการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนกับทุกภาคส่วน รวมถึงเยาวชน โดยมุ่งพัฒนาน้ำดื่มน้ำใช้ที่ได้มาตรฐาน และขับเคลื่อนความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัด เป็นลำดับแรก
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "น้ำ" เป็นทรัพยากรสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการพัฒนาในทุกมิติ องค์การสหประชาชาติจึงกระตุ้นให้ประชาคมโลกร่วมกันรณรงค์ให้เกิดการฟื้นฟูและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน โดยเร่งการเปลี่ยนแปลง ด้วยการลงมือปฏิบัติเพื่อลดวิกฤตด้านน้ำและสุขาภิบาล ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในทุกมิติ และวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบพลวัต ด้วยความร่วมมือของคณะกรรมการลุ่มน้ำซึ่งเป็นข้อกลางเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการเสริมความเข้มแข็งการร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตั้งแต่ระดับชุมชน พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผนวกกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงและใช้น้ำที่มีคุณภาพ อย่างพอเพียงและเท่าเทียม ลดความเสียหายจากภัยพิบัติ เกิดความสมดุลและยั่งยืนในลักษณะลุ่มน้ำอย่างเป็นระบบ และในวาระครึ่งทศวรรษแห่งการร่วมลงมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำในปีนี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันเจตนารมณ์และความพร้อมเดินหน้าไปกับประเทศสมาชิกในการประกาศคำมั่นโดยสมัครใจ ร่วมเร่งการเปลี่ยนแปลงด้านน้ำตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีส่วนร่วม ให้ประสบความสำเร็จภายในปี 2030 และพร้อมรับข้อเสนอแนะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับหน่วยงานและองค์กรด้านน้ำของประเทศสมาชิก เพื่อเพิ่มอัตราเร่งของพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการแสดงผลการดำเนินงานของหน่วยงานและองค์กรภาคีเครือข่ายด้านน้ำ ที่สำเร็จได้ด้วยความร่วมมือของภาครัฐและการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม การแลกเปลี่ยนแนวคิดและการขับเคลื่อนความร่วมมือการใช้น้ำอย่างประหยัดของภาครัฐ ภาคการศึกษาวิจัย ภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม และการแสดงพลังเยาวชนในการขับเคลื่อนการพัฒนาน้ำดื่มน้ำใช้ที่ได้มาตรฐาน และการใช้น้ำอย่างประหยัด ร่วมกับสถานศึกษาและชุมชน และด้วยความร่วมมือของหน่วยงานและองค์กรภาคี ผนวกกับการมีส่วนร่วมของเครือข่ายบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จะส่งผลให้เกิดการขยายแนวร่วมลงมือปฏิบัติที่มีความเข้มแข็ง เร่งการเปลี่ยนแปลงการจัดการน้ำและสุขาภิบาลของประเทศตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการของหน่วยงานและองค์กรด้านน้ำ การเสวนาแลกเปลี่ยนแนวคิดการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐและภาคประชาสังคม และการนำเสนอการร่วมบริหารจัดการน้ำของเยาวชน 4 ภูมิภาคของประเทศ เป็นต้น
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit