คณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Bord Bia - Irish Food Board) กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งในงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มแห่งเอเชียหรือ Food Ingredients Asia (Fi Asia) 2023 ซึ่งล่าสุดจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมชูนวัตกรรมความยั่งยืนภายใต้แคมเปญ "ผลิตภัณฑ์นมยุโรป - ไอร์แลนด์ สร้างสรรค์ร่วมกับธรรมชาติ" (European Dairy - Ireland, working with nature) เพื่อนำเสนอโอกาสและต่อยอดความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตนมยุโรปจากประเทศไอร์แลนด์กับเหล่าผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้า และสื่อมวลชนในไทย ท่ามกลางความสนใจของบรรดาหน่วยงานและองค์กรธุรกิจในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต่างตบเท้าเข้าร่วมงาน Fi Asia 2023 กันอย่างคึกคัก
คณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Bord Bia - Irish Food Board) ประกาศความสำเร็จและเดินหน้าสนับสนุนแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนสำหรับผลิตภัณฑ์นม พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการตอกย้ำชื่อเสียงความเป็นผู้นำของสหภาพยุโรปและไอร์แลนด์ในฐานะแหล่งผลิตภัณฑ์นมคุณภาพสูงที่มีความน่าเชื่อถือ โดยงานแสดงสินค้า FI Asia ในกรุงเทพฯ ครั้งนี้เปรียบเสมือนเวทีสำคัญที่คณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Bord Bia - Irish Food Board) ได้มาแบ่งปันนวัตกรรมความเชี่ยวชาญและแรงบันดาลใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จดังกล่าว
นอกจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า FI Asia 2023 แล้ว คณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Bord Bia - Irish Food Board) ยังได้จัดงานสัมมนา "การค้าผลิตภัณฑ์นมของยุโรปจากไอร์แลนด์อย่างยั่งยืน" เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอมุมมองความรู้ด้านผลิตภัณฑ์นมที่เป็นประโยชน์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าความสำคัญในการผลิตนม ทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน สอดคล้องกับหลักจริยธรรมด้านการผลิตอาหารและเครื่องดื่มของสหภาพยุโรปและไอร์แลนด์ โดยผู้เข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกรรมวิธีการผลิตของผลิตภัณฑ์นมยุโรปและไอร์แลนด์ที่เป็นธรรมชาติและมีความยั่งยืน
งานสัมมนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานจากอุตสาหกรรมนมของไทย ได้แก่ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ผู้ผลิต และสื่อมวลชนไทยรวมกว่า 40 ราย มาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสนี้ พร้อมรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของยุโรปและไอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในฐานะผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์นมคุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่เน้นกรรมวิธีการผลิตแบบยั่งยืนมาอย่างยาวนาน
งานสัมมนาครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากนายแพทริก หรือ แพต เบิร์น (H.E. Mr. Patrick Pat Bourne) เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทยมากล่าวเปิดงาน ตามด้วยการบรรยายภาพรวมด้านผลิตภัณฑ์นมของคณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Bord Bia - Irish Food Board) โดยนายเลียม แมคคาบี (Mr. Liam McCabe) ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์นมของ Bord Bia ขณะที่นายคริสตอฟ ลาฟูแจร์ (Mr. Christophe Lafougere) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GIRA Dairy ได้มาแบ่งปันข้อมูลการตลาดเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมระดับโลกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับทราบ
ผู้เข้าร่วมงานสัมมนายังได้รับโอกาสสุดพิเศษในการพบปะพูดคุยกับบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมที่มีชื่อเสียงจากสหภาพยุโรปและไอร์แลนด์หลายราย ได้แก่ Arrabawn, Glenstal, Lakeland Dairies, Tipperary Co-op และ Tirlan รวมถึงได้เข้าร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจในการสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์นมมาตรฐานยุโรปจากไอร์แลนด์ซึ่งผู้บริโภคสามารถนำมาสร้างสรรค์เมนูในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย
นายเลียม แมคคาบี ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นมยุโรปจากไอร์แลนด์ ซึ่งประกอบไปด้วยผลการวิจัยตลาดล่าสุด พร้อมเจาะลึกศักยภาพโซลูชันการผลิต และโอกาสความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมในไทยและยุโรปและไอร์แลนด์ในอนาคต
นายแพทริก หรือ แพต เบิร์น (H.E. Mr. Patrick Pat Bourne) เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาพบปะพูดคุยกับเหล่าพันธมิตรรายสำคัญของผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์สัญชาติไอริชที่งานแสดงสินค้า FI Asia รวมถึงในงานสัมมนาการค้าผลิตภัณฑ์นมยุโรปครั้งนี้ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Bord Bia - Irish Food Board) ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญมากในประเทศไทย การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับประเทศไทยคือสิ่งที่ประเทศไอร์แลนด์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญสำคัญครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้เจริญเติบโตก้าวหน้าต่อไปอีกในอนาคต"
นายเลียม แมคคาบี ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์นมของคณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Bord Bia - Irish Food Board) กล่าวว่า "สถานการณ์ภาพรวมในปัจจุบันของผลิตภัณฑ์นมยุโรปและไอร์แลนด์ทำให้ผู้เข้าร่วมงานมีความเข้าใจมากขึ้นว่าระบบการผลิตของเรามีความโดดเด่นแตกต่างจากตลาดภูมิภาคอื่นและกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์นมเพื่อผู้บริโภคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างไร แม้จะมีสถานการณ์ความผันผวนในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อมองในระยะยาวแบบเทียบปีต่อปี ตัวเลขปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ของเรามายังตลาดไทยกลับเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก อันเป็นผลมาจากการเดินหน้าส่งเสริมธุรกิจของเราในไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา"
นายคริสตอฟ ลาฟูแจร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมอาหารของ GIRA Dairy กล่าวเสริมว่า "เห็นได้ชัดว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีบทบาทความสำคัญมากขึ้นในสายตาประเทศผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ เราเห็นความนิยมที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น มอสซาเรลลาชีส ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนในภูมิภาคนี้ยังมีความชื่นชอบและสนใจในชีสและเนยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งดึงดูดให้สหภาพยุโรปและไอร์แลนด์สนใจและมีความเหมาะสมที่จะลงทุนในตลาดนี้เป็นอย่างยิ่ง"
ภายหลังงานสัมมนา ยังมีกิจกรรมสร้างเครือข่ายระหว่างองค์กรธุรกิจซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยได้พบปะพูดคุยกับผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์นมจากไอร์แลนด์ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
{ข้อมูลเศรษฐกิจ} ในปี 2565 ไอร์แลนด์ส่งออกผลิตภัณฑ์นมมายังตลาดไทยมากกว่า 15,900 ตัน รวมมูลค่ากว่า 47 ล้านยูโรหรือราว 1.8 พันล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความต้องการส่วนผสมนมผงของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในไทย ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์นมของไอร์แลนด์มายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น 18% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 (ที่มา: Bord Bia https://www.bordbiaPerformanceandprospects.com/)
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit