มาร่วมค้นพบ 15 ข้อเท็จจริงสนุก ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ แอร์บัส A380 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 15 ปีของเครื่องบิน A380 ของสายการบินเอมิเรตส์:
- สร้างประวัติศาสตร์: เมื่อ A380 เริ่มบินครั้งแรกในปี 2551 สนามบินหลายแห่งต้องปรับเปลี่ยนรันเวย์และสะพานเชื่อมทางอากาศเพื่อรองรับเครื่องบินรุ่นใหม่นี้ เนื่องจากเครื่องบินโดยรวมมีน้ำหนักได้มากถึง 575 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนักกว่า 2 เท่าครึ่ง ของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพในนิวยอร์ก
- ความจุขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา: ด้วยพื้นที่สำหรับผู้โดยสารมากถึง 615 คนในรูปแบบ 2 ชั้น A380 จึงถือเป็นเครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 550 ตร.ม. ภายในพื้นที่ห้องโดยสารทั้ง 2 ชั้น และยังมีลูกเรือของสายการบินเอมิเรตส์มากถึง 24 คนในทุกเที่ยวบินของ A380 ซึ่งหมายความว่า จะมีลูกเรือกว่า 300 คน ให้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน A380 ทุก ๆ วันสำหรับเที่ยวบินแค่ในสหราชอาณาจักร
- ปีกลำตัวกว้าง: ปีกของ A380 กว้างถึง 79.8 เมตร ซึ่งกว้างพอ ๆ กับรถบัสสองชั้น 32 คัน หรือสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก
- ความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส: A380 มอบประสบการณ์บนเที่ยวบินที่ดีที่สุดในโลกด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นเอกลักษณ์สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ได้แก่ ห้องอาบน้ำ Shower Spa พร้อมชุดสิ่งอำนวยความสะดวกจาก Emirates Private Collection Bvlgari
- ห้องสวีทส่วนตัว: ห้องสวีทส่วนตัวแบบปิดทั้งหมด 14 ห้องในที่นั่งชั้นหนึ่งของ A380 ซึ่งผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว อีกทั้งยังสามารถเลือกอาหารรสเลิศและเวลานอนได้ตามต้องการ ซึ่งที่นั่งก็อยู่ใกล้กับสปาอาบน้ำและเลานจ์ที่ดีที่สุดบนตัวเครื่องอีกด้วย
- การทำอาหารระดับไฮเอนด์: เชฟกว่า 1,800 คน สร้างสรรค์สูตรอาหารมากกว่า 12,000 รายการต่อปี เพื่อรองรับฝูงบินของสายการบินเอมิเรตส์ รวมถึง A380 ซึ่งให้บริการอาหารแก่ผู้โดยสารที่มารับประทานอาหารในเที่ยวบินมากกว่า 43 ล้านคนในแต่ละปี
- รสชาติระดับท็อป: เอมิเรตส์เป็นสายการบินพาณิชย์เพียงแห่งเดียวในโลกที่ให้บริการ Moet & Chandon, Veuve Clicquot และ Dom Perignon บนเครื่องอย่างเป็นทางการ จากข้อตกลงพิเศษที่มีขึ้นจนถึงปี 2567 Moet Hennessy Champagnes มีให้บริการสำหรับผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์บนเครื่องมากว่า 30 ปี โดยผู้โดยสารชั้นหนึ่งสามารถเพลิดเพลินกับแชมเปญและคาเวียร์ได้ไม่จำกัดระหว่างเที่ยวบิน
- สั้นที่สุดและยาวที่สุด: ด้วยระยะเวลาการบินในแต่ละเที่ยวไม่เกิน 2 ชั่วโมง 50 นาที เส้นทางที่สั้นที่สุดของเครื่อง A380 ของสายการบินเอมิเรตส์คือดูไบไปยังเจดดาห์ ในขณะที่เส้นทางที่ยาวที่สุดของ A380 ของสายการบินเอมิเรตส์ คือดูไบ-โอ๊คแลนด์ โดยใช้เวลาบินประมาณ 17 ชั่วโมง
- บรรจุสัมภาระมากมาย: เครื่องบิน A380 ของสายการบินเอมิเรตส์สามารถบรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 20,000 กิโลกรัม ทำให้ A380 สามารถขนส่งสินค้าจำนวนมากเพื่อการส่งออก เช่น ดอกไม้ เนื้อและปลาสด สินค้าฟุ่มเฟือย และเวชภัณฑ์
- ความบันเทิงหลายชั่วโมง: ระบบความบันเทิงบนเที่ยวบิน Ice ที่ได้รับรางวัลของสายการบินเอมิเรตส์ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเลือกช่องภาพยนตร์ รายการทีวี กีฬาสดและข่าวด่วนได้กว่า 6,500 ช่อง ควบคู่ไปกับ Wi-Fi บนเที่ยวบิน โดยภาพยนตร์ที่มีให้รับชมเมื่อสายการบินเอมิเรตส์เปิดตัวเครื่องบิน A380 ครั้งแรกในปี 2551 ได้แก่เรื่อง The Dark Knight, Vicky Cristina Barcelona และ Mamma Mia!
- บินระยะไกลที่สุด: A380 เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่มีพิสัยการบินไกลที่สุดในโลก สามารถบินได้ไกลถึง 15,000 กิโลเมตรระหว่างเครื่องขึ้นและลงจอด
- สูงตระหง่านบนท้องฟ้า: ด้วยระดับความสูงขณะบินที่ 43,100 ฟุต เครื่องบิน A380 บินด้วยความสูงมากกว่า 15 เท่าของตึก Burj Khalifa ที่สูงที่สุดในโลก และสูงกว่า 42,000 ฟุตเหนือ The Shard ส่วนของแพนหางที่ตั้งตระหง่าน มีความสูงถึง 24 เมตร สามารถดึงดูดความสนใจได้ทุกที่
- กำลังแรงสูง: เครื่องบิน A380 ของเอมิเรตส์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Engine Alliance GP72000 สี่เครื่อง โดยมีแรงขับขึ้นเหนือปีกมากกว่า 290,000 ปอนด์ ให้แรงม้าเทียบเท่ากับรถยนต์ประมาณ 2,600 คันที่ 110 แรงม้าต่อคัน
- การลงจอดแบบนุ่มนวล: ล้อจำนวน 22 ล้อที่ประกอบกันเป็นชิ้นส่วนในการลงจอดของ A380 รองรับน้ำหนักได้ประมาณ 26 ตันต่อล้อ เทียบเท่ากับรถบรรทุกที่บรรทุกเต็มพิกัดมากกว่าหนึ่งคันครึ่ง เพื่อช่วยให้สามารถเลี้ยวได้ 180 องศาภายในความกว้างเพียง 56.6 เมตร
- การยกระดับตัวเครื่อง: สายการบินเอมิเรตส์กำลังดำเนินโครงการปรับปรุงมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการปรับปรุงห้องโดยสารทั้งหมดในเครื่องบิน A380 จำนวน 67 ลำ ซึ่งรวบรวมผลิตภัณฑ์และการตกแต่งภายในล่าสุดในทุกห้องโดยสาร รวมถึงที่นั่ง Premium Economy ใหม่ นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งแบบใหม่ที่เปิดตัวบนเครื่องบิน A380 ลำแรกในเดือนมีนาคม 2566 โดยใช้สีกว่า 4,000 ลิตร ในการเพ้นท์พื้นที่ทั้งหมด กว่า 38,000 ตารางฟุตของตัวเครื่องบิน