ทำไมต้องดูแลสุขภาพตับ

23 Aug 2023

ช่วงเข้าพรรษา ประโยคที่ทุกอาจจะคุ้นเคยกันก็คือ งดเหล้าเข้าพรรษา ฟังดูผ่านๆ อาจจะนึกถึงเฉพาะคนที่ดื่มเหล้า หรือแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ที่จริงแล้ว การงดเหล้าก็เพื่อให้ ตับ ได้พักผ่อน หรือลดการทำงานลงนั่นเองค่ะ

ทำไมต้องดูแลสุขภาพตับ

พญ.อนงนุช ชวลิตธำรง  แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้มาให้ข้อมูลเรื่องนี้ว่า แอลกอฮอล์ที่เป็นส่วนประกอบของเหล้า เบียร์ ไวน์ และอื่นๆ มีผลในการทำลายเซลล์ตับโดยตรง กระตุ้นมีไขมันสะสมในตับ ส่งผลให้เซลล์ตับเกิดการอักเสบ หรือมีพังผืดเกิดขึ้น จนกลายเป็นภาวะตับแข็ง ซึ่งถ้าปล่อยไว้เรื้อรังนานๆเข้าอาจกลายเป็น มะเร็งตับ ได้ในที่สุดค่ะ  แต่นอกจากเหล้าแล้ว ก็มีปัจจัยอื่นๆที่ทำลายเซลล์ตับของเราโดยที่เราอาจคาดไม่ถึง เช่น การได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อม สารโลหะหนักที่ปนเปื้อนจากอาหาร เครื่องดื่ม ข้าวของเครื่องใช้อุปโภคต่างๆ หรือการรับประทานยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หรือคนที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ก็มีผลต่อตับได้ค่ะ เมื่อเซลล์ตับเราแย่ลง ก็ส่งผลให้การกำจัดของเสียต่างๆ ลดลง อวัยวะอื่นๆก็ทำงานแย่ลง ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมทั้งร่างกายได้ค่ะ

นับว่ายังดีนะคะที่เซลล์ตับของเรามีความสามารถพิเศษที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ด้วยปัจจุบันที่สารพิษมีอยู่รายรอบตัวเรา ลำพังกลไกปกติในการฟื้นฟูของตับโดยลำพังอาจไม่เพียงพอ เราจึงจำเป็นต้องช่วยตับ โดยเราสามารถช่วยให้ตับเราดีขึ้นได้ โดยการปฏิบัติตัวดังนี้ค่ะ

  1. งดพฤติกรรมทำร้ายตับ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่
  2. เพิ่มการออกกำลังกาย เพื่อช่วยลดไขมันสะสมในตับ
  3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่น้ำตาลสูง ไขมันสูง อาหารปิ้งย่าง
  4. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์พอดี เพราะความอ้วนเป็นสาเหตุของไขมันพอกตับได้
  5. ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบี
  6. ไม่รับประทานยาหรืออาหารเสริมเอง โดยไม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
  7. ตรวจสุขภาพร่างกาย และการทำงานของตับเป็นประจำทุกปี

นอกจากการดูแลตัวเองแล้ว เราอาจใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับได้อีกทางหนึ่งค่ะ เช่น

  • การทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) โดยการใช้สารพิเศษเพื่อกำจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย
  • การเติมสารอาหารทางหลอดเลือดที่ช่วยตับกำจัดสารพิษ เช่น N-Acetyl-Cysteine เป็นต้น
  • การรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยตับกำจัดสารพิษ

อย่างไรก็ดีต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดนะคะ

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit